ตัดงบสำเร็จ! สปายแวร์สอดแนมประชาชน #เพกาซัส 350 ล้านบาท!
ถือเป็นชัยชนะของประชาชน สำหรับการที่ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 มีมติตัดงบฯ โครงการจัดหาระบบรวบรวมและประมวลผลข่าวกรองชั้นสูง มูลค่า 350 ล้านบาท ที่เสนอโดย กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.)
โครงการนี้ พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีในกรณีใช้สปายแวร์สอดแนมประชาชน ได้เคยตั้งข้อสังเกตผ่านเอกสารชี้แจงว่า เป็นการจัดซื้อเครื่องมือสปายแวร์ที่ติดตามข้อมูลจากมือถือประชาชน และเมื่อไปดูสเปคแล้วพบว่าเป็นสปายแวร์คล้าย “เพกาซัส” ที่ประชาชน 35 คน เคยถูกโจมตีด้วยอาวุธไซเบอร์นี้
ด้วยเหตุที่รัฐบาลไม่เคยมีคำตอบที่ชัดเจนว่าเคยใช้สปายแวร์นี้สอดแนมประชาชนหรือไม่ อีกทั้งยังไม่แน่ใจได้ว่าเครื่องมือนี้จะถูกใช้เฉพาะผู้ต้องสงสัยกรณียาเสพติดเพียงอย่างเดียว จึงทำให้ กมธ.ในสัดส่วนพรรคก้าวไกล ไม่ยินยอมให้ผ่านโครงการนี้ และในที่สุด กมธ.เสียงข้างมากก็มีมติตัดงบฯ 350 ล้านบาท ที่ บช.ปส. มีโครงการจัดซื้อสปายแวร์ตัวนี้เสนอเข้ามา
ในการแถลงข่าวเรื่องความสำเร็จในการตัดงบฯ ดังกล่าว พิจารณ์ได้ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าประชาชน 35 คน ซึ่งไม่ควรถูกสอดแนมด้วยเหตุผลความมั่นคงใดๆ ของรัฐ ถูกสอดแนมแบบนี้ รัฐบาลโดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคงควรจะต้องตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าประชาชนถูกสอดแนมโจมตีด้วยอาวุธสงครามได้อย่างไร
รับฟังการแถลงข่าวได้ที่ https://www.facebook.com/MoveForwardPartyThailand/videos/447752047236248
เพราะสปายแวร์อย่างเพกาซัสนั้น ขายให้เฉพาะรัฐบาลเท่านั้น และก่อนขายก็ต้องได้รับการอนุมัติโดยกระทรวงกลาโหมของประเทศอิสราเอล ดังนั้น การสอดแนมประชาชน 35 คนที่ผ่านมา ย่อมไม่ใช่ฝีมือของเอกชนแน่ๆ
ถ้ารัฐบาลบริสุทธิ์ใจว่าตนเองไม่ได้ทำ ต้องมีกระบวนการตรวจสอบว่า 35 คนนี้ถูกรัฐบาลไหนโจมตี แต่ทว่าเรื่องนี้กลับมีพิรุธ ซึ่งเราเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรีและดูและเป็นผู้ดูแลด้านความมั่นคง ย่อมมีส่วนรู้เห็นและเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน
พรรคก้าวไกลยืนยันว่า งบประมาณโครงจัดซื้อสปายแวร์ในลักษณะนี้ ถ้าจะถูกนำมาพิจารณาอีก ไม่ว่าจะปีงบประมาณนี้ผ่านงบกลาง หรือปีงบประมาณต่อไป จะต้องมีกระบวนการที่ยืนยันได้ว่าจะไม่ถูกใช้กับประชาชน โดยการเปิดเผยข้อมูลทั้งหมด การมีหมายศาล มีกระบวนการทางกฎหมายที่รับรองให้เจ้าหน้าที่รัฐละเมิดสิทธิประชาชนหรือไม่ ถ้าข้อมูลทั้งหมดไม่ชัดเจน ก็ไม่ให้ผ่านงบฯ นี้ไปได้
สำหรับความต่อเนื่องเกี่ยวกับการอภิปราย รัฐบาลใช้อาวุธไซเบอร์อย่างเพกาซัสสอดแนมคุกคามประชาชนนั้น พรรคก้าวไกลจะมีการเสนอเรื่องผ่าน กมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อเท็จจริง เพื้อหาความยุติธรรมให้กับประชาชนต่อไป
ด้าน “ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล ในฐานะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบฯ ระบุว่า ในการลงมติว่าอนุมัติโครงการใด ตัดลดงบฯ โครงการใด หรือไม่อนุมัติงบฯ โครงการใดในครั้งนี้ มีทั้งสิ่งที่เป็นความสำเร็จ 2 ประเด็น ที่เป็นชัยชนะเล็กๆ ของประชาชน ที่สามารถตัดงบฯ ได้
ประเด็นที่ 1 คือการตัดงบฯ มูลค่า 350 ล้านบาท ที่จะใช้ซื้อสปายแวร์ที่มีสเปคคล้ายเพกาซัส ดังกล่าว
และอีกประเด็นคือ ตัดงบฯ โครงการจัดหาเทคโนโลยีสารสนเทศทดแทนระบบเดิม ของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือที่ทางพรรคเคยชี้ให้เห็นว่าเป็นการจัดซื้ออุปกรณ์ที่สเปคสูงเกินกว่าความเหมาะสมกับภารกิจของหน่วยงาน มูลค่า 38.8 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม อยากให้ประชาชนร่วมกันจับตามมองอย่างใกล้ชิด เพราะยังมีวาระ 2 และวาระ 3 ที่จะพิจารณาในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้