ผู้ว่าฯ ที่มาจากการแต่งตั้งอาจจะทำงานตามนายสั่ง รอวันเกษียณหรือย้ายไปที่อื่น แต่ผู้ว่า กทม. ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ทำแบบนั้นไม่ได้
ทุกวันนี้ มีความคิดเห็นจำนวนมากที่บอกว่า “ผู้ว่า กทม. ไม่มีอำนาจทำอะไร อย่าหาเสียงเพ้อฝันเกินจริง” ซึ่งผมคิดว่านี่เป็นความเข้าใจผิดและเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อการพัฒนากรุงเทพ แม้ผมจะเห็นว่าท้องถิ่นทั่วประเทศรวมถึงกรุงเทพ ยังขาดอำนาจ ทรัพยากร และความเป็นอิสระในการบริหารจัดการ แต่มีหลายสิ่งอย่างที่ผู้ว่าและ ส.ก. สามารถทำได้ทันที
ผมขอยกตัวอย่างความเข้าใจผิด 3 เรื่อง เกี่ยวกับนโยบายที่ผมเสนอ เพื่อทำให้เห็นว่าทุกเรื่องอยู่ในอำนาจหน้าที่ผู้ว่า กทม. ทำได้ทั้งสิ้น
📌 ความเข้าใจผิดที่ 1 “การเพิ่มสวัสดิการเป็นอำนาจของรัฐบาลกลางอย่างเดียว ท้องถิ่นทำไม่ได้”
👉 กทม. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ สามารถจัดทำสวัสดิการในรูปเงินอุดหนุนได้ ตามอำนาจของ พ.ร.บ. แผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจ พ.ศ. 2542 มาตรา 18
ส่วนปัญหาที่ว่าจะหาเงินมาจากไหน ในการเสนอนโยบายของเราก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าการจัดทำสวัสดิการที่เราเสนอใช้งบประมาณปีละ 8,000 ล้านบาท/ปี ซึ่งเราจะนำงบประมาณมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการจัดเก็บภาษีที่ดิน 100% ซึ่ง กทม. จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 18,000 ล้านบาท/ปี ใช้งบประมาณเพียงครึ่งหนึ่งของรายได้ที่จะเพิ่มขึ้นส่วนนี้เท่านั้น
📌 ความเข้าใจผิดที่ 2 “กทม. ไม่มีอำนาจขึ้นค่าขยะห้างใหญ่”
👉 เรื่องการค่าขยะ สภา กทม. สามารถออกข้อบัญญัติได้ตาม พ.ร.บ. การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 มาตรา 20 และมาตรา 63 เรื่องนี้คุณอัศวินเองก็ยอมรับในดีเบตช่อง 3 แล้วว่าทำได้ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคุณอัศวินไม่ทำ
📌 ความเข้าใจผิดที่ 3 “ผู้ว่า กทม. จะเอาที่ดินเอกชนมาใช้ประโยชน์ได้ยังไง!?!”
👉 กลไกภาษีที่ดินเป็นเครื่องมือสำคัญของท้องถิ่นในการกำหนดทิศทางการพัฒนาของเมือง
สำหรับกรุงเทพถึงแม้อัตราภาษีจะถูกกำหนดมาจาก พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 แต่ มีประกาศกระทรวงการคลังให้ท้องถิ่น สามารถยกเว้นการเก็บภาษีที่ดินสำหรับที่เอามาใช้ประโยชน์สาธารณะได้
ส่วนอัตราภาษีก็มีประกาศกระทรวงการคลัง ที่ให้อำนาจท้องถิ่นจัดเก็บภาษีที่ดินมากกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้เช่นกัน
การ ‘เพิ่ม’ หรือ ‘ลด’ ภาษี คือกลไกให้คุณให้โทษที่ กทม. สามารถทำได้เลย ตามข้อเสนอของผมให้ใช้ที่ดินเอกชนไปทำประโยชน์เพื่อประชาชน ในขณะเดียวกันเจ้าของที่ดินก็ได้รับการยกเว้นภาษี แทนที่จะต้องมาหาช่องเลี่ยงภาษีด้วยการซอยที่หรือปลูกกล้วยปลูกมะนาวกลางเมืองแบบนี้
นี่เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้นที่แสดงให้เห็นว่าผู้ว่ากรุงเทพสามารถทำอะไรได้อีกมาก
ผมมาในฐานะนักการเมือง ลงสมัครรับเลือกตั้ง แบกอุดมการณ์ของตัวเองและความหวังประชาชนเอาไว้
ดังนั้น ไม่แปลกที่เราจะต้อง “ทำสิ่งที่เขาอนุญาตให้ทำ” ควบคู่ไปกับการ “ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ไม่เป็นธรรมด้วย”
ทุกวันนี้ไม่มีใครปฏิเสธว่าผู้ว่ากรุงเทพ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ มีอำนาจ งบประมาณ และความเป็นอิสระในการบริหารจัดการงานในท้องถิ่นน้อยเกินไป จนทำให้ไม่สามารถตอบสนองปัญหาพี่น้องประชาชนได้ดีพอ
นี่คือเหตุผลที่ผมและพรรคก้าวไกลผลักดันการปฏิรูปกฎหมายกระจายอำนาจ
และแน่นอน ถ้าผมเป็นผู้ว่า ผมคนเดียวก็ทำไม่สำเร็จ จึงต้องอาศัยพันธมิตรเราทั้งในสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทั้งในสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ทั้งประชาชนนอกสภา เพื่อผลักดันสิ่งที่ควรจะเป็น สิ่งที่ดีกว่า ให้สำเร็จได้ นี่คือการทำงานเป็นทีมในทุกระดับ เห็นภาพชัดเจน มีเป้าหมายตรงกัน
ที่ผมตั้งใจลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าในนามพรรคก้าวไกล ไม่ใช่เพียงเพราะต้องการแค่ “เปลี่ยนตัวผู้ว่า” แต่ตั้งใจ “เปลี่ยนเกม” ด้วย
ผู้ผลิต วิโรจน์ ลักขณาอดิศร
ที่อยู่ผู้ผลิต พรรคก้าวไกล เลขที่ 167 ชั้น 6 ซอยรามคำแหง 42 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240
จำนวนที่ผลิต 1 โพส
วันที่ผลิตตามวันเดือนปีที่ปรากฏ