ด้วยความเชื่อว่าพรรคก้าวไกลต้องเป็นของประชาชน จึงเป็นที่มาของแคมเปญ #ก้าวไกลNext ที่พาเราออกเดินทาง รับฟังความเห็นของประชาชนทั่วประเทศ ด้วยคำถามสั้นๆ ง่ายๆ ว่า “พรรคก้าวไกล จะดีขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไร” หากจะสรุปข้อเสนอทั้งหมด เราตกผลึกว่าคือ “การเพิ่มการมีส่วนร่วมของประชาชน” ซึ่งเราได้เริ่มลงมือทันทีใน 3 ด้าน หรือ 3 “ก้าวใหม่” ของพรรคก้าวไกล จากการปราศรัยของ “ไอติม” พริษฐ์ วัชรสินธุ
📌 ก้าวที่ 1 = การเพิ่มการมีส่วนร่วมในการ “คิดค้นนโยบาย”
สิ่งหนึ่งที่เราได้เรียนรู้ตลอดการทำงานที่ผ่านมา คือปัญหาและความสนใจของประชาชนมีความแตกต่างหลากหลายเกินกว่า คนๆเดียวหรือผู้เชี่ยวชาญไม่กี่คน จะคิดค้นทางออกได้ทั้งหมด
วันนี้ พรรคก้าวไกล เราเลยอยากระดมพลังและไอเดียจากประชาชนทุกคนทั่วประเทศ ผ่านการเปิดตัว platform “ตลาดนโยบาย” ที่จะเปิดให้ประชาชนเข้ามาเสนอนโยบายที่เขาอยากเห็น หากนโยบายใด มีประชาชนคนอื่นกด “ซื้อ” เยอะ จนได้รับคะแนนโหวตหรือเสียงสนับสนุนถึงเกณฑ์เป้าหมายที่เราตั้งไว้ เราก็จะเชิญผู้เสนอ ให้เข้ามา “ขาย” นโยบายโดยตรงต่อผู้บริหารพรรค เพื่อให้นโยบายของเขา ถูกพิจารณาไปเป็นนโยบายพรรคในการเลือกตั้งที่จะมาถึง และเพื่อให้ตัวเขา มาร่วมกันขับเคลื่อนนโยบายนั้นให้เกิดขึ้นจริงหลังการเลือกตั้ง
📌 ก้าวที่ 2 = การเพิ่มการมีส่วนร่วมในการ “สนับสนุนพรรค”
ถ้าเราอยากให้พรรคก้าวไกลอยู่ได้ด้วยเงินจากประชาชนอย่างแท้จริง เราต้องเพิ่มช่องทางให้ประชาชนที่อยากสนับสนุนพรรค มีช่องทางในการสนับสนุนพรรคได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น
วันนี้ พรรคก้าวไกล เราเลยต้องการเปิดตัว ช่องทางใหม่ในการระดมทุน ทีทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าประจำพรรครุ่นใหม่ที่มีน้องไข่ต้มเป็นตัวเอก หรือ ระบบที่รองรับการบริจาคออนไลน์ เป็นครั้งๆ หรือเป็นรายเดือนผ่านการตัดบัตรเครดิต
พรรคก้าวไกลเราไม่เคยฝันอยากจะ อยู่ได้ในระยะยาว ด้วยเงิน 100 ล้านจาก คน 1 คน แต่เราฝัน อยากจะอยู่ได้ในระยะยาว ด้วยเงิน 100 บาท จากประชาชน 1 ล้านคน
📌 ก้าวที่ 3 = การเพิ่มการมีส่วนร่วมในการ “ตรวจสอบผู้แทน”
เราได้พยายามวางกระบวนการคัดเลือกให้รัดกุมขึ้น และเพิ่มความชัดเจน ในสิ่งที่พรรคคาดหวังจากผู้สมัครทุกคน แต่เท่านั้นคงไม่พอ วันนี้เราเปิดตัว “สมุดปกสีส้ม” ซึ่งจะเป็นการเผยแพร่คุณค่าหลัก และคุณสมบัติ ที่ผู้แทนก้าวไกลทุกคนต้องมีร่วมกันเสมือน “สัญญาประชาคม” ที่ใครที่จะสวมเสื้อก้าวไกลต้องให้กับประชาชน และเปิดให้ประชาชนตรวจสอบ ตั้งแต่วันที่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ไปจนถึงวันที่เขาทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎรในสภา
“เมื่อความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น หลายคนให้ความสำคัญกับคนแรกที่เริ่มต้นสร้าง แต่ความจริงแล้วคนที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจริงๆ ไม่ใช่แค่คนแรกที่เริ่มทำ แต่คือทุก ๆคนที่เข้ามาร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยกัน”
พริษฐ์ กล่าว
