พรรคก้าวไกลเรายืนยันว่านโยบายในการหันมาใช้ระบบค่าแรงขั้นต่ำที่ปรับขึ้นอัตโนมัติทุกปี จะเป็นประโยชน์และเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และสร้างเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ
ในมุมหนึ่ง แรงงานทั่วประเทศจะมีความมั่นคงในชีวิตจากค่าแรงที่ปรับขึ้นตามค่าครองชีพทุกปี รวมถึงได้รับความเป็นธรรมจากการได้ส่วนแบ่งของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แรงงานทุกคนร่วมขับเคลื่อน
ในอีกมุมหนึ่ง ผู้ประกอบการสามารถวางแผนธุรกิจของตัวเองในแต่ละปีได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ด้วยค่าแรงที่ไม่ขึ้นอย่างก้าวกระโดดจนไม่ทันตั้งตัวในแต่ละปี
ถึงอย่างไร พรรคก้าวไกลเราเข้าใจถึงความกังวลของผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) ที่มีการจ้างงานคนเกือบ 13 ล้านคนทั่วประเทศ และยืนยันว่าเรามุ่งบริหารเศรษฐกิจ ให้ทั้งแรงงานและ SMEs ได้รับความเป็นธรรมและเติบโตควบคู่กันได้
SMEs ถือเป็นกลไกที่สำคัญต่อเศรษฐกิจประเทศ ยิ่งระบบเศรษฐกิจไหนมี SMEs จำนวนมาก ย่อมหมายถึงเป็นระบบเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันสูง และการแข่งขันนี้จะทำให้เกิดนวัตกรรม สินค้าและบริการใหม่ๆ ทำให้ประชาชนมีโอกาสเลือกสินค้า-บริการที่หลากหลาย แต่ปัจจุบัน SMEs มีสัดส่วนเพียง 34% ของ GDP ซึ่งสะท้อนว่าเศรษฐกิจประเทศไทยส่วนใหญ่ยังถูกขับเคลื่อนโดยกลุ่มทุนใหญ่
เพื่อสนับสนุนให้ SMEs สามารถเติบโตและก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญในการสร้างนวัตกรรมและแข่งขันในตลาดโลก พรรคก้าวไกลมีนโยบายดังต่อไปนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มแต้มต่อและขีดความสามารถทางการแข่งขันให้ SMEs
1. รัฐช่วย SME โดยตรง จากการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 450 บาททันที
แม้ในปีถัดๆ ไป ค่าแรงขึ้นต่ำจะถูกปรับขึ้นแบบขั้นบันไดตามการเติบโตทางเศรษฐกิจและค่าครองชีพ แต่ในปีแรกของรัฐบาลก้าวไกล (2566) เรามีแผนจะปรับขึ้นค่าแรงทันทีเป็น 450 บาทต่อวัน (จากการนำสูตรเรื่องอัตราเงินเฟ้อและดัชนีค่าครองชีพไปคำนวณย้อนหลังตั้งแต่ปี 2554 ที่ค่าแรงขั้นต่ำปรับขึ้นเป็น 300 บาทต่อวัน) พรรคก้าวไกลจึงต้องการแบ่งเบาภาระค่าแรงที่สูงขึ้นสำหรับ SME ผ่าน 2 มาตรการ
- 1.1. ในช่วง 6 เดือนแรก: รัฐช่วยสมทบค่าประกันสังคมในส่วนของผู้ว่าจ้าง สำหรับแรงงานที่ถูกกระทบโดยการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
- 1.2. ในช่วง 2 ปีแรก: เปิดให้ SME นำค่าแรงมาหักค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ 2 เท่า
2. เพิ่มลูกค้าให้ SME ทั้งลูกค้าทั่วไป (B2C) และลูกค้าธุรกิจ (B2B)
- 2.1. เพิ่มลูกค้าทั่วไป (Business-to-Customer: B2C) ด้วยโครงการ “หวย SME” (ซื้อสินค้า SME แถมหวย) – พรรคก้าวไกลจะออกโครงการ “หวย SME” ภายใน 100 วันแรก เพื่อเพิ่มแรงจูงใจให้ประชาชนที่เลือกซื้อสินค้า SME ได้รับแถมสลากกินแบ่งของรัฐบาลไปลุ้นรางวัล และเพื่อเพิ่มช่องทางให้ผู้ประกอบการ SME นำยอดขายมาแลกเป็นสลากกินแบ่งของรัฐบาลได้ด้วย
- 2.2. เพิ่มลูกค้าธุรกิจ (Business-to-Business: B2B) ด้วยการลดหย่อนภาษีให้ธุรกิจที่ซื้อจาก SME – พรรคก้าวไกลจะเปิดให้นิติบุคคลที่ซื้อสินค้าจาก SMEs เพิ่มขึ้นจากปีก่อน สามารถหักภาษีนิติบุคคลได้ 1.5 เท่าในส่วนที่ซื้อจาก SMEs เพิ่มเติม เพื่อให้ธุรกิจหันมาซื้อสินค้า-บริการจาก SME มากขึ้น และป้องกันไม่ให้กลุ่มทุนใหญ่ขยายกิจการลงมากินรวบในห่วงโซ่อุปทาน
3. โควตาชั้นวางสำหรับสินค้า SME ในห้างใหญ่
พรรคก้าวไกลจะกำหนดสัดส่วนชั้นวางสำหรับสินค้า SMEs ในห้างสมัยใหม่ (เช่น ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ) เพื่อเปิดโอกาสให้สินค้า SMEs ได้มีโอกาสมาวางขาย และช่วยให้สินค้า SMEs มีโอกาสเข้าถึงตลาดใหญ่ได้เร็วขึ้น
4. คูปองแลกซื้อสินค้าท้องถิ่น
พรรคก้าวไกลจะให้ประชาชนผู้เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มีเครดิต (จำกัดไม่เกิน 1,000 บาทต่อปี) สำหรับการแลกซื้อสินค้าท้องถิ่น วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์เกษตร ในราคาครึ่งหนึ่ง (โดยรัฐสมทบอีกครึ่ง) เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาเลือกซื้อ-สนับสนุนสินค้าเหล่านี้ให้เติบโตต่อไป
5. SME เข้าถึงทุน (2 แสนราย รายละ 1 แสนบาท / 2.5 หมื่นราย รายละ 1 ล้านบาท)
พรรคก้าวไกลจะเพิ่มโอกาสให้ SME เข้าถึงแหล่งทุนในระบบ (สำหรับเงินทุนหมุนเวียนและเงินทุนขยายกิจการ) ไม่ติดกับดักของหนี้นอกระบบ โดยการจัดสรรงบอุดหนุนให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันความเสี่ยงให้ SMEs เพื่อให้ SME ไม่ต้องใช้หลักประกัน ผ่าน 2 โครงการ:
- 5.1. “ทุนตั้งตัว” (รายละ 1 แสนบาท) สำหรับ SME 200,000 รายต่อปี
- 5.2. “ทุนสร้างตัว” (รายละ 1 ล้านบาท) สำหรับ SME 25,000 รายต่อปี
6. ลดภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับ SME
พรรคก้าวไกลต้องการเพิ่มสิทธิพิเศษทางภาษีเงินได้นิติบุคคลให้ SME สามรถแข่งขันกับทุนใหญ่ได้ โดยมีการลดอัตราเงินได้นิติบุคคลสำหรับ SME เท่านั้น:
- ช่วงกำไร 3 แสน – 3 ล้าน : ลดจาก 15% เหลือ 10%
- ช่วงกำไร 3 ล้าน – 30 ล้าน : ลดจาก 20% เหลือ 15%
พรรคก้าวไกลต้องการเห็นเศรษฐกิจไทยก้าวหน้าอย่างไม่เหลื่อมล้ำ แรงงานและผู้ประกอบการเติบโตไปด้วยกัน โดยรัฐบาลที่ให้ความสำคัญและรับประกันทั้งคุณภาพชีวิตที่ดีของคนทำงาน และโอกาสที่เป็นธรรมสำหรับ SME ในการแข่งขันกับทุนใหญ่