ขึ้นค่าเก็บขยะห้างใหญ่เอาเงินไปปรับปรุงเก็บขยะครัวเรือน
“
มันไม่สมเหตุสมผลที่กรุงเทพจะเอาภาษีของประชาชน
“
ไปอุ้มค่าจัดการขยะให้กับเหล่านายทุน
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าทุกวันนี้ กทม. ขาดทุนค่าจัดการขยะมหาศาลแน่นอนว่ารัฐสามารถขาดทุนเพื่อให้บริการสาธารณะแก่ประชาชนได้แต่รัฐไม่ควรขาดทุนเพื่อให้บริการนายทุน นายทุนจำเป็นต้องจ่ายค่าบริการตามจริงโดยไม่เบียดเบียนภาษีของประชาชน ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ผลิตขยะออกมาเป็นจำนวนมาก แต่กลับจ่ายค่ากำจัดขยะเพียงเดือนละไม่กี่หมื่นบาทเท่านั้น เทียบไม่ได้เลยกับขยะที่ผลิตออกมาเดือนละหลายร้อยตัน ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วควรจะจ่ายไม่ต่ำกว่า 300,000-500,000 บาทต่อเดือน มากไปกว่านั้นอีกปัญหาหนึ่งคือเรื่องการทุจริตโรงงานกำจัดขยะที่เอื้อพวกพ้องและนายทุนจนกรรมตกอยู่กับชาวบ้านโรงกำจัดขยะของ กทม. ที่ส่งกลิ่นล้วนมาจากการก่อสร้างที่ไม่เป็นไปตามแบบ จนไม่สามารถกำจัดขยะตามกระบวนการที่ถูกต้องได้ โดยระบบกำจัดกลิ่นในกระบวนการหมักขยะ มีปัญหาตั้งแต่วันแรกที่รับมอบแต่กรุงเทพกลับปล่อยผ่าน ไม่ยอมเอาผิดผู้รับเหมา บางบริษัทที่ได้รับงานก่อสร้างโรงงานกำจัดขยะ มีนายทหารระดับสูงที่เป็นเครือข่ายของ คสช. หรือมีความสัมพันธ์อันดีกับเครือข่าย คสช. นั่งเป็นกรรมการ /ผู้ถือหุ้น
ลงทุนพัฒนาศูนย์เด็กเล็กศูนย์ละ 5 ล้านบาทในระยะเวลาเวลา 4 ปี
เพื่อพัฒนาศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
เช่น ค่าอาหารกลางวันและนม
ครุภัฒฑ์ โต๊ะ-เก้าอี้ ห้องน้ำ ที่นอน
สถานที่ตั้งต้องสะอาดและปลอดภัย
ปรับปรุงจุดทิ้งขยะทั่วกรุงเทพ
ให้การเดินรถเก็บขยะมีประสิทธิภาพ
เก็บครบ ไม่ตกหล่น ตรงเวลา
จ้างคนในชุมชน
รวมขยะในชุมชนมารวมไว้ที่จุดทิ้งขยะ
ริมถนน สำหรับชุมชน หรือในซอยลึก
ที่รถขยะเข้าไม่ถึง
แก้ไขกลิ่นเหม็นจากโรงงานขยะ
ทั้งของ กทม. และของเอกชน
ให้ปฏิบัติตามแผนงาน ข้อสัญญา
และกฏหมายอย่างตรงไปตรงมา
หยุดเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน
แอพพิลิเคชั่น
เรียกรถซาเล้งรับซื้อของเก่า
ให้มารับซื้อขยะรีไซเคิลที่หน้าบ้าน
ในเวลาที่ประชาชนสะดวก