ก้าวไกล ยื่นร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับ – พ.ร.ป.พรรคการเมือง ต้องลดอำนาจยุบพรรค สร้างสถาบันการเมืองเข้มแข็ง
หัวหน้าพรรคก้าวไกล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นำทีม ส.ส. ยื่น ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. … และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. … ต่อ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้รับเรื่อง
📌 สาระสำคัญ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง
- กองทุนพัฒนาการเมืองควรเป็นแหล่งทุนให้พรรคการเมืองไทยสามารถยืมได้
- การเข้าถึงแหล่งทุนในระบบออนไลน์
- การให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคการเมืองได้เป็นสิ่งที่ไม่ควรมีอยู่ในระบบนิเวศน์ของการเมืองไทย
- ยกเลิกโทษการเพิกถอนเลือกตั้งในบทกำหนดโทษ เพราะมีบทลงโทษทางอาญาอยู่แล้ว สิทธิในการเลือกตั้งจะต้องเป็นสิทธิพลเมืองขั้นพื้นฐานที่ทุกคนพึงมี
📌 สาระสำคัญ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
- แก้ไขให้บัตรเลือกตั้งที่มาจากนอกราชอาณาจักรที่จัดส่งหลังจากนับคะแนนไปแล้วไม่ถือเป็นบัตรเสีย ซึ่งกรณีนี้เคยเกิดขึ้นในช่วงการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา บัตรเลือกตั้งจากนิวซีแลนด์มาไม่ถึง เลยถือเป็นบัตรเสียทั้งหมด ทำให้สิทธิของพี่น้องชาวไทยที่อยู่ต่างประเทศหายไป และทำให้ผลของการเลือกตั้งไม่ตอบเจตนารมณ์ของคนในประเทศและทั่วโลก
- การจัดการเลือกตั้งต้องรายงานอย่างต่อเนื่องผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้
- ใช้การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ระบบ MMM แบบปี 2540
“ร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับ มีความสำคัญต่อการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ทั้งในเรื่องระบบนิเวศน์ทางการเมือง ยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง และเรื่องขององคาพยพของพรรคการเมืองต่างๆ เป้าหมายของพรรคก้าวไกล คือต้องการให้มีการจัดการเลือกตั้งอย่างเป็นธรรม สุจริต มีการรับผิดรับชอบขององค์กรอิสระในการจัดการเลือกตั้ง ทำให้สถาบันทางการเมืองเข้มแข็ง จัดตั้งได้ง่าย ไม่ให้กฎหมายหรือระบบราชการเป็นตัวกันไม่ให้มีพรรคการเมืองใหม่ๆ เกิดขึ้น การดำรงอยู่ของพรรคการเมืองให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ประชาชน เพื่อไม่ให้อำนาจที่อยู่นอกเหนือจากการเลือกตั้งมายุบพรรคได้ง่าย”
หัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุ
“ก่อนหน้านี้เราได้เสนอระบบเลือกตั้งแบบ MMP ของเยอรมัน เพื่อให้มีความหลากหลายต่อระบบพรรคการเมือง แต่ในเมื่อกฎกติกาออกมาเช่นนี้เราพร้อมยอมรับ ก้าวข้ามเรื่องเหล่านั้นและพร้อมยอมรับในระบบนี้ตามรัฐธรรมนูญกำหนด”