สองแถวสีส้มเคลื่อนมาพร้อมกับแดดสีส้มยามเช้าตรู่ มุ่งตรงสู่สำนักงานเขตหลักสี่ อันเป็นสถานที่ใช้รับสมัครเลือกตั้งซ่อม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 9 หลักสี่ – จตุจักร (เฉพาะแขวงลาดยาว แขวงเสนานิคม และแขวงจันทรเกษม) รถคันนี้ เป็นขนส่งสาธารณะที่ประชาชนใช้อยู่เป็นประจำ วิ่งให้บริการอยู่ในพื้นที่จากตลาดโกสุมรวมใจ ผ่านชุมชนต่างๆ มากมาย ผ่านสำนักงานเขตหลักสี่ สถานีรถไฟหลักสี่ ไอทีสแควร์ ก่อนจะวนกลับสู่ตลาดโกสุมรวมใจ
ผู้คนที่อยู่บนรถดังกล่าว นำโดย “ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ส.ส.กรุงเทพมหานคร ของพรรคไม่ว่าจะเป็น ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์, เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร, ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ซึ่งทั้งหมดกำลังจะพา “เพชร” กรุณพล เทียนสุวรรณ ไปสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้สมัคร ส.ส.ในนามของพรรค โดยการเลือกตั้งนั้นจะเกิดขึ้นในวันที่ 30 มกราคม นี้
การเดินทางมาโดยรถสองแถวในวันนี้ ทางหนึ่งก็เพื่อรับรู้ถึงสภาพของขนส่งสาธารณะของผู้คนในพื้นที่ ขณะที่อีกทางหนึ่งก็เพื่อหลีกเลี่ยงการนำรถยนต์ส่วนตัวเข้าไปในจุดรับสมัคร ช่วยลดความแออัดของการจราจรในพื้นที่สำนักงานเขตหลักสี่ ซึ่งตั้งอยู่ในซอยแคบๆ และยิ่งเมื่อไปถึงก็พบว่าคิดไม่ผิด เพราะตลอดข้างทางของซอยดังกล่าว มีรถจอดเนืองแน่น การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก
อีกทั้งนี่ยังเป็นภาพของความร่วมมือร่วมใจ การทำงานเป็นทีมอย่างเหนียวแน่น ดังที่พิธายืนยันเสียงดังฟังชัดว่า ทุกองคาพยพของพรรคก้าวไกล ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. ไม่ว่าจะเป็นว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) หรือไม่ว่าจะเป็นว่าที่ผู้สมัครผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ซึ่งทางพรรคจะมีการเปิดตัวในวันที่ 23 มกราคม นี้ ทุกคนจะมาช่วย เพชร กรุณพล หาเสียงและส่งให้ เพชร กรุณพล ไปเป็นอีกหนึ่งตัวแทนของประชาชนในสภาให้จงได้
“ถึงเวลาเก่าไปใหม่มา” พิธา กล่าวอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับบอกด้วยว่า “สำหรับพื้นที่อย่าง กทม. มีอำนาจทับซ้อนกันอยู่ 3 ชั้น คือ ส.ส.ซึ่งในขณะนี้มีอยู่ทั้งหมด 30 คน, ส.ก.จำนวน 50 คน และผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ที่จะมีการเลือกตั้งในอนาคต คนกรุงเทพฯ อยู่กับสิ่งเดิมๆ มานาน รอคอยความเปลี่ยนแปลงมานาน และการจะเปลี่ยนกรุงเทพฯ ได้นั้น ทั้ง 3 อำนาจนี้ต้องทำงานเป็นทีม ไร้รอยต่อ ซึ่งพรรคก้าวไกลเรามีความพร้อมเต็มที่”
“สำหรับชาวหลักสี่กับจตุจักร ผมเชื่อว่า เพชร กรุณพล จะเป็นความเปลี่ยนแปลงที่พ่อแม่พี่น้องรอคอยมานานแสนนาน เขาพร้อมที่จะทำงานในพื้นที่ เขารู้จักพื้นที่นี้เป็นอย่างดี เรียนจบจากพื้นที่นี้คือมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทำธุรกิจ SME มีร้านอาหารก็อยู่ในพื้นที่นี้ และนอกจากนี้ความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์ที่ร่ำเรียนมาก็ทำให้เขาพร้อมที่จะเข้าไปทำงานในสภา ทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้งบประมาณซึ่งเป็นเงินภาษีของพี่น้องประชาชน ให้ถูกใช้อย่างคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์”
พิธา กล่าว
ขณะที่ เพชร กรุณพล พูดถึงสิ่งเร่งด่วนซึ่งจะต้องดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวหลักสี่และจตุจักรว่า สถานการณ์ขณะนี้โอไมครอนกำลังระบาด ดังนั้น สิ่งที่ต้องจัดการอย่างเร่งด่วนก็คือการจัดหาวัคซีนเพื่อฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นพื้นที่หนาแน่นปานกลาง และโดยเฉพาะผู้สูงอายุซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก คือค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานครนั้นมีผู้สูงอายุอยู่ที่ 17% แต่พื้นที่ของเรานี้มีผู้สูงอายุเฉลี่ยนสูงถึง 22 % ดังนั้นต้องรีบให้ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นในแง่ผู้ที่มีความเปราะบางให้ได้โดยเร็ว เพื่อที่จะป้องกันการติดเชื้อ หรือแม้จะได้รับเชื้อแล้วก็จะได้อาการไม่หนัก และรวมถึงผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนหรือได้รับวัคซีนยังไม่ครบโดส ก็ต้องเร่งจัดหามาให้บริการประชาชนด้วย
เมื่อถามว่ามีความมั่นใจแค่ไหนกับการเลือกตั้งครั้งนี้?
เพชร กรุณพล รีบตอบทันทีว่า มั่นใจเต็มร้อยตั้งแต่ก่อนลงสมัคร ยิ่งเมื่อได้ไปในพื้นที่ ได้เจอปัญหาที่พ่อแม่พี่น้องประชาชนประสบอยู่ ก็คิดว่าพรรคก้าวไกลมีนโยบายที่จะช่วยทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคนดีขึ้นได้ โดยเฉพาะปัญหาในพื้นที่อย่างปัญหาที่อยู่อาศัย เรื่องผู้สูงอายุ เรื่องรายได้ซึ่งไม่พอกับรายจ่ายซึ่งเป็นกันทั้งประเทศ ตรงนี้ได้นำเอานโยบายของพรรคก้าวไกลไปบอกเล่า ก็พบว่าทุกคนให้การต้อนรับดีมากๆ
แต่อย่างไรก็ตาม เพชร กรุณพล ก็ยังมีความกังวลอยู่เล็กน้อย เรื่องของการที่ประชาชนยังไม่รู้ว่าจะมีการเลือกตั้ง
“คนส่วนใหญ่มักจะใช้คำว่าเลือกตั้งซ่อมหลักสี่ แต่จริงๆ แล้ว ผมอยากย้ำว่ายังมีเขตจตุจักรอีก 3 แขวงรวมอยู่ด้วย นั่นก็คือแขวงลาดยาว แขวงเสนานิคม และแขวงจันทรเกษม ซึ่งมีประชาชนอยู่อีกเป็นจำนวนมาก หลายคนยังไม่รู้ว่าจะมีการเลือกตั้งซ่อมวันที่ 30 มกราคม นี้ ดังนั้น อยากฝากไปถึงพี่น้องชาวหลักสี่และจตุจักรทั้ง 3 แขวง ให้ออกมาเลือกตั้งผู้แทนของคุณให้มากๆ เลือกคนที่จะมาขับเคลื่อนนโยบายในท้องถิ่น และนำนโยบายในท้องถิ่นไปแก้ปัญหาระดับชาติให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน” เพชร กรุณพล กล่าว
“ไม่เป็นกลาง ยืนข้างประชาชน” คือ สโลแกนที่พรรคก้าวไกลชูในการเลือกตั้งครั้งนี้ สำหรับบรรยากาศในการจับหมายเลขประจำตัวผู้สมัคร เนื่องจากมีผู้เดินทางมาสมัครพร้อมกันในวันแรกทั้งหมดถึง 7 คน จึงต้องจับสลากผู้จับหมายเลขก่อนหลัง และเพชร กรุณพล ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่ไม่ต้องจับหมายเลข ปรากฏว่าได้ “เบอร์ 6”
หลังเดินออกมาจากสำนักงานเขตหลักสี่ พร้อมกับเสียงกองเชียร์ตะโกนต้องรับดังกระหึ่ม “เพชร กรุณพล เบอร์ 6” , “พรรคก้าวไกล เบอร์ 6” ดังสลับกันไปเป็นระยะๆ
พิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล ย้ำกับสื่อมวลชนอย่างหนักแน่นอีกครั้งเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นว่า
“เวทีนี้เดิมพันสูงเกินไปในการที่จะนอนหลับทับสิทธิ์ อยากให้พี่น้องประชาชนออกมาใช้สิทธิ์ใช้เสียง เพื่อทำให้เห็นว่า ในช่วงที่เป็นปีแห่งความหวังสำหรับการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ ในช่วงที่เป็นปีที่เป็นทางสองแพร่งแบบนี้ คุณจะอยู่แบบเดิมๆ หรือจะก้าวไปข้างหน้า นี่เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องตัดสิน ออกมาใช้สิทธิ์กันเยอะๆ อย่าให้น้อยกว่าคราวที่แล้วซึ่งพื้นที่นี้้มีผู้มาใช้สิทธิ์สูงถึง 75 % ขณะที่ค่าเฉลี่ยทั้งกรุงเทพฯ อยู่ที่ 72 % นั่นแสดงว่าพี่น้องชาวหลักสี่และจตุจักรมีเลือดความเป็นนักประชาธิปไตยสูงมาก เห็นความสำคัญในสิทธิ์เสียงของตัวเองมาก”
การสมัครรับเลือกตั้งเสร็จสิ้น ทิม พิธา, เพชร กรุณพล พร้อมด้วย ส.ส.กรุงเทพมหานคร และทีมงานขึ้นรถแห่ประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ ประชาชนที่พบเห็นต่างโบกไม้โบกมือให้กำลังใจ บ้างชูมือเป็นสัญลักษณ์เบอร์ 6 ให้การต้อนรับ
เป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างยิ่งสำหรับพรรคก้าวไกล สำหรับผู้สมัคร คือ เพชร กรุณพล ที่ต่อไปนี้เขาตั้งใจว่าจะเดินทางรณรงค์หาเสียง พบปะกับพ่อแม่พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ในระยะเวลาที่เหลืออยู่ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง 30 มกราคม
