ก่อนที่ วรพล อนันตศักดิ์ จะมาเป็น ผู้สมัคร ส.ส.ชุมพร เขต 1 เบอร์ 3 พรรคก้าวไกล อาชีพหลักของเขาคือ ‘ไรเดอร์’ และปัจจุบัน เขาใช้เวลาหลังจากหาเสียงการเลือกตั้ง ขี่มอเตอร์ไซค์ส่งอาหารเพื่อเลี้ยงปากท้อง ขณะที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นั้นก็เคยเป็นผู้บริหารของ Grab มาก่อน
วันนี้ ทั้ง วรพล และ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขออาสามาเป็นไรเดอร์ส่งอาหารและประชาธิปไตยให้ถึงมือประชาชนด้วยตนเอง ทำให้ พิธา ได้เข้าใจความยากลำบากของอาชีพไรเดอร์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ จีพีเอส ไม่แม่นยำและความอันตรายบนท้องถนนที่ต้องขี่มอเตอร์ไซค์บนท้องถนนในทุกๆ วัน แต่ไทยก็ยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองพี่น้องแรงงานในเศรษฐกิจแพลตฟอร์ม หรือ Gig Economy ไม่ว่าจะเป็น Grab, Lineman และ Foodpanda
“เรื่องของแรงงานแพลตฟอร์มหรือ gig economy ซึ่งตรงกับผู้สมัครของพรรคก้าวไกล คุณโอ๊ต-วรพล ที่ประกอบอาชีพไรเดอร์มาก่อนที่จะเป็นผู้สมัคร เขารู้ดีเกี่ยวกับเรื่องสวัสดิการและความยุติธรรม และความปลอดบนท้องถนนของพี่น้องชุมพร”
หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว
ก่อนหน้านี้ พิธายังได้ขึ้นรถแห่หาเสียงรอบตัวเมืองชุมพร เพื่อแนะนำ วรพล ผู้สมัคร เบอร์ 3 ของพรรคก้าวไกล จากนั้นได้เดินทางต่อไปยังท่าเรือปากน้ำหัวถนน หรือปากน้ำเก่า เพื่อลงเรือหางยาวขนาดเล็กไปรับฟังปัญหาพี่น้องชาวประมงพื้นบ้าน รวมถึงไปดูสุสานเรือ ที่ทั้งอุตสาหกรรมแทบจะล้มละลายจากคำสั่งของ คสช. เมื่อปี 2558
พิธา กล่าวว่า จากการรับฟังปัญหาของพี่น้องชาวประมง ก็พบว่า สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ประมง ที่พรรคก้าวไกลได้ส่งเข้าสภาไป และมีความตั้งจะว่า จะนำปัญหาของพี่น้องชาวชุมพรไปอภิปราย เพื่อที่จะสนับสนุนเรื่องเกี่ยวกับไมล์ทะเล ที่เราขีดเส้นไมล์ทะเลก็เหมือนกับขีดเส้นชีวิตของพี่น้องชาวประมง
“ถ้าเราสามารถทำเรื่องสวัสดิการ เรื่องแรงงานแพลตฟอร์ม และกฎหมายที่เป็นธรรมของพี่น้องประมง รวมถึงการฟื้นฟูชายหาดและสิ่งแวดล้อม 3 สิ่ง ซึ่งหากทำได้ ในฐานะพรรคการเมือง เราก็จะสามารถปลดล็อกชุมพร และหากพี่น้องชาวชุมพรอยากให้เศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตดีขึ้นมากกว่านี้ 16 มกราคม เข้าคูหากาเบอร์ 3 ให้คุณวรพล เข้าไปเป็นผู้แทนในสภา”
“16 มกราคม ผมอยากให้พี่น้องชาวชุมพร ออกไปเลือกตั้งกันเยอะๆ เพราะพรรคก้าวไกล เราเชื่อว่า ทุกการเลือกตั้งคือโอกาสในการสร้างความเปลี่ยนแปลง เราอยากให้สามัญชนคนธรรมดา ตัวแทนคนรากหญ้า เข้าไปเป็นปากเป็นเสียงแทนชาวชุมพร ถึงแม้เข้าไม่มีประสบการณ์ในสภา แต่เขามีประสบการณ์ และเขารู้ดีว่าปัญหาในจังหวัดชุมพรมีอะไรบ้าง ผมรับรองว่าคุณวรพล สามารถไปเป็นปากเป็นเสียงให้ชาวชุมพร ไม่แพ้ผู้แทนราษฎรคนอื่นในสภาอย่างแน่นอน”