วิบากกรรมชาวระยองหลังน้ำมันรั่ว : การเจรจา 5 ครั้ง ยังไม่ได้เงินเยียวยา
ตลอดเดือนที่ผ่านมาหลังเหตุการณ์น้ำมันรั่วที่จังหัวดระยอง มีเพียงการเสนอชดเชยเยียวยาจากทางบริษัทที่ทำน้ำมันรั่วไหลต่อผู้ประกอบการและชาวประมง เป็นเงินชดเชยเบื้องต้นไม่มีเงื่อนไขรายละ 30,000 บาท เพียงก้อนเดียว
แต่เงินเพียงหนึ่งก้อนเล็กๆ นั้นก็ดูจะไม่เป็นธรรมต่อผู้ได้รับผลกระทบนัก เพราะอยู่ดีๆ ก็ออกไปประกอบอาชีพไม่ได้โดยที่ไม่ได้ทำอะไรผิด ชาวบ้าน ชาวประมงและกิจการร้านค้าเสียหายเป็นรายได้ที่สูงกว่านั้นมาก เมื่อวานนี้ (28 กุมภาพันธ์ 2565) ผู้ประกอบการประมงชายฝั่งจึงรวมตัวกันไปจัดกิจกรรมเพื่อแสดงออกถึงความเดือดร้อนหลังจากผ่านเวลานับเดือนหลังน้ำมันรั่ว
พวกเขาเสนอให้ทางบริษัททบทวนมาตรการเยียวยามาหลายครั้ง จนถึงวานนี้เป็นการเจรจาครั้งที่ 5 และก็ยังไม่มีข้อยุติ ทางบริษัททำเพียงรับเรื่องและบอกว่าจะนำไปพิจารณาเพิ่มงบประมาณในการเยียวยาโดย “อิงจากคำพิพากษาคดีที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง” ทำให้ยังไม่มีการตกลงอย่างชัดเจน
ในขณะที่ภาครัฐเองแม้พยายามทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการช่วยเจรจา แต่ก็ไม่สามารถสร้างการยอมรับในหมู่ประชาชนชาวระยองได้ เนื่องจากที่ผ่านมาภาครัฐไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาหรือฟ้องร้องแต่อย่างใด ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านต้องไปรวมตัวกันหน้าโรงงาน SPRC ขณะที่อีกส่วนหนึ่งนำเรือมากกว่าหนึ่งร้อยลำนัดกันรวมตัวไปจัดกิจกรรมแสดงพลังรอบอ่าวบริเวณพื้นที่ถมทะเลมาบตาพุดเฟส 3
ทางพรรคก้าวไกลเล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว ทำให้บรรดา ส.ส. ผู้สมัคร ส.ส. และทีมงานจังหวัดของพรรคก้าวไกล เกาะติดประเด็นปัญหานี้มาตั้งแต่วันแรกจนถึงเวลานี้ก็เกินหนึ่งเดือนแล้ว สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดคือ นี่ไม่ใช่เหตุการณ์น้ำมันรั่วในจังหวัดระยองครั้งแรก แต่ดูเหมือนภาครัฐจะไม่เคยเรียนรู้การจัดการดูแลผู้ได้รับผลกระทบเลย ที่ผ่านมาชาวประมงสะท้อนว่า จากเหตุน้ำมันรั่วครั้งก่อน กว่าทรัพยากรทางทะเลจะฟื้นฟูก็ใช้เวลา 7-8 ปี เพิ่งได้เริ่มตั้งต้นกันใหม่ก็มารั่วซ้ำอีกครั้ง และก็ยังไม่มีมาตรการของรัฐในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างชัดเจน ทางประชาชนผู้ได้รับผลกระทบยืนยันว่าจะต้องมีมาตรการในการยกระดับการเรียกร้องไปยังทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องแน่นอน