เร่งนำเข้ายารักษาโควิดที่ได้ผล อย่าเสียดายงบเพื่อรักษาชีวิตประชาชน
ท่ามกลางการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางว่า สรุปแล้ว ยาฟาวิพิราเวียร์มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะใช้รักษาต้านโรคโควิด-19 หรือไม่ นายแพทย์วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล จึงได้ออกมาอธิบายว่า รายงานทางวิชาการหลายฉบับสรุปตรงกันว่า ยาตัวนี้ไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่ออัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19
“ผมขอวิงวอนไปยัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้ขยันขันแข็ง ขวนขวายแสวงหาความรู้ใหม่ๆ ไม่ปิดหูปิดตา ขอให้เปิดรับองค์ความรู้ทางการแพทย์ใหม่ๆ ซึ่งได้รับการพัฒนาและเผยแพร่ออกมาตลอดเวลา”
นายแพทย์วาโย อธิบายว่า เมื่อสืบค้นในฐานข้อมูลทางการแพทย์ระดับสากล พบว่า รายงานทางวิชาการหลายฉบับออกมาอย่างต่อเนื่องจนถึงต้นปี 2565 ให้ข้อสรุปค่อนข้างตรงกัน และรายงานทางวิชาการในระดับที่มีความน่าเชื่อถือสูง ซึ่งได้จากการวิเคราะห์อภิมานหรือที่เรียกว่า “Meta Analysis” เผยแพร่เมื่อช่วงปลายปี 2564 โดยได้รายงานว่า
“No significant beneficial effect on the mortality among mild to moderate COVID-19 patients”
วาโย กล่าว
“แปลเป็นไทยได้ว่า ‘ยาฟาวิพิราเวียร์’ ไม่มีประโยชน์อย่างมีนัยสำคัญต่ออัตราการตายในผู้ป่วยโควิด-19 ที่มีอาการไม่รุนแรงไปจนถึงในรายที่มีอาการรุนแรงปานกลาง”
แม้รายงานบางฉบับรายงานว่า ยาฟาวิพิราเวียร์มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยเมื่อใช้รักษากับโรคโควิด-19 ในหลอดทดลอง อีกทั้งยังพอจะปรากฏรายงานว่ายาฟาวิพิราเวียร์นั้นช่วยให้อาการโดยรวมดีขึ้นได้ ถึงแม้จะไม่ช่วยลดปริมาณไวรัสและอัตราการตายอย่างมีนัยสำคัญ แต่ก็มีประเด็นเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือของวิจัยที่ นายแพทย์วาโย อยากให้ตั้งข้อสังเกตกัน
รายงานที่สนับสนุนยาฟาวิพิราเวียร์เป็นข้อมูลจากผลการศึกษาวิจัยในประเทศโดยคณะแพทย์แห่งหนึ่ง ร่วมกับหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงสาธารณสุขหลายหน่วยงาน ซึ่งมีผู้ป่วยเข้าร่วมในการศึกษาวิจัยเพียงไม่ถึงร้อยราย แต่กลับได้ผลการศึกษาออกมาเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับรายงานหลายฉบับจากฐานข้อมูลทางการแพทย์ระดับสากล อีกทั้งยังไม่มีการตีพิมพ์และเผยแพร่เข้าสู่ฐานข้อมูลทางวิชาการใด
นายแพทย์วาโย ย้ำว่า ยาฟาวิพิราเวียร์มีความปลอดภัยค่อนข้างสูง ทั้งยังปรากฏผลการศึกษาในระดับสากลและในหลายประเทศตั้งแต่ในช่วงต้นๆ ว่า ค่อนข้างมีความปลอดภัยและมีแนวโน้มที่จะต่อสู้รักษากับโรคโควิด-19 ได้ อีกทั้งยังมีราคาที่ไม่แพงมากนัก แต่ความรู้ทางการแพทย์ไม่มีวันหยุดนิ่ง และโรคโควิด-19 นี้ก็เป็นโรคอุบัติใหม่ จึงควรร่วมกันศึกษาวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ๆ ไปพร้อมกันกับนานาอารยะประเทศ หากผลการศึกษายาฟาวิพิราเวียร์ในประเทศไทยได้ผลดังนี้จริง ก็ขอให้เร่งตีพิมพ์เผยแพร่ผลการศึกษาวิจัยนี้ให้ประชาคมโลกได้รับรู้ด้วย
นอกจากนี้ นายแพทย์วาโย ขอให้รัฐบาลโอบรับยาใหม่ๆ ที่นานาอารยะประเทศได้พัฒนาขึ้นร่วมกันไปด้วย อาทิ ยาโมลนูพิราเวียร์และแพกซ์โลวิด ซึ่งมีผลการศึกษาในระดับสากลว่าสามารถต่อกรกับโควิด-19 ได้ ถึงแม้ยาดังกล่าวนี้จะมีราคาต่อหน่วยที่สูงกว่ายาฟาวิพิราเวียร์
“ท่านในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข คงจะต้องให้น้ำหนักต่อสุขภาพและชีวิตของประชาชนเป็นสำคัญเหนือกว่าเงินงบประมาณที่จะต้องสูญเสียไป และสื่อสารให้ประชาชนที่คาดหวังและตั้งตารอกับการแถลงการให้ความรู้อย่างมีประสิทธิภาพของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของเขาด้วย ประชาชนทั้งหลายจะได้มีความเข้าใจอย่างถูกต้อง ตรงกัน และไม่ตื่นตระหนกอีกต่อไป”
วาโย กล่าวทิ้งท้าย