
ขณะนี้ ไทยกำลังอยู่ท่ามกลางช่วงพลิกผันของประวัติศาสตร์โลก ไทยต้องฟื้นฟูและสร้างประเทศใหม่จากโรคระบาดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบศตวรรษ อีกทั้งยังอยู่ท่ามกลางสงครามและวิกฤตทางภูมิรัฐศาสตร์โลกครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 80 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา
ในอนาคตยังมีวิกฤตอีกมากที่รอประเทศไทยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤตสังคมสูงวัย ที่เริ่มขึ้นแล้ว และจะรุนแรงขึ้นอีก ทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงและอาจทำให้กองทุนประกันสังคมล้มละลายในอนาคตอันใกล้ เท่านั้นยังไม่พอ วิกฤตสิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะโลกร้อนหรือสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงจะทำให้คนรุ่นลูกต้องเจอภัยพิบัติมากกว่าคนรุ่นนี้ถึง 7 เท่า
นี่จึงเป็นเวลาที่เราควรมาคุยกันอย่างจริงจังเกี่ยวกันอนาคตของประเทศไทย
“วิกฤตข้างหน้าเรามากมายขนาดนี้ เราต้องมีรัฐบาลที่มีศักยภาพมากขึ้นไม่ใช่ลดลง ซึ่งศักยภาพที่เราพูดถึงนี้ไม่ใช่ขนาดแต่หมายถึงขีดความสามารถในการแก้ไขปัญหาในประชาชนได้อย่างตรงเป้า ตอนนี้ความสามารถของรัฐไทยในการแก้ปัญหาให้ประชาชนมาถึงขีดสุดแล้วและจะลดน้อยถอยลงไปทุกวัน”
ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวในงาน Nation Dinner Talk 2022: Thailand Future อนาคตประเทศไทย 2022
ปัจจุบัน ประเทศไทยขาดดุลงบประมาณจำนวนมากแต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้ เพราะงบประมาณ 40% หมดไปกับเงินเดือนและสวัสดิการข้าราชการ เหลือ “พื้นที่ว่างทางการคลัง” (Fiscal Space) ไม่ถึง 1 ใน 3 ของงบประมาณ และยิ่งมีวิกฤตโควิด สงคราม ค่าครองชีพสูงที่ทำให้รัฐบาลต้องใช้มาตรการระยะสั้นมาพยุง ก็ยิ่งสร้างหนี้และภาระผูกพันต่างๆ ต่อไป ส่งผลให้รัฐบาลไทยในอนาคตไม่มีความยืดหยุ่นในการแก้ปัญหาให้ประชาชน ซึ่งจะเป็นปัญหาที่มีความท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆ
ศิริกัญญา เสนอว่า ประเทศไทยจะรับมือกับความท้าทายในอนาคตได้ จะต้องปฏิรูประบบราชการครั้งใหญ่ รื้อโครงสร้างภาครัฐและระบบราชการที่ไร้ประสิทธิภาพ รวมถึงรื้อโครงสร้างเศรษฐกิจที่กระจุกตัวและทุนผูกขาดเสือนอนกินที่ได้ประโยชน์จากความไม่เปลี่ยนแปลง
ไทยต้องเปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจจากกระจุกเป็นกระจาย ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจตอนนี้กระจุกตอนอยู่กับทุนนิยมพวกพ้องที่ใกล้ชิดภาครัฐ (Crony Sector) ที่ประเทศไทยมี Crony Sector อันดับ 9 ของโลกจากการจัดอันดับโดย The Economist ถ้าไม่ทลายทุนผูกขาดที่อิงแอบกับอำนาจรัฐเหล่านี้ได้ ก็จะไม่สามารถกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจไปให้กับทุกคนได้
นโยบายต้องเปลี่ยนจากการสั่งการลงมาจากผู้มีอำนาจ (top-down) เป็นการนำเสนอแนวทางแก้ไขจากประชาชนไปปรับใช้ (bottom-up) และคำตอบที่ง่ายที่สุด คือ การกระจายอำนาจ คืนอำนาจและงบประมาณ ให้โอกาสการทำมาหากิน ผ่านการปลดล็อกท้องถิ่นที่จะเป็นการระเบิดพลังทางเศรษฐกิจครั้งสำคัญ เพื่อให้ประชาชนรากหญ้าลืมตาอ้าปากได้
ศิริกัญญา ย้ำว่า ไทยต้องปรับโครงสร้างรัฐให้ปรับตัวยืดหยุ่นได้ ปัจจุบัน กฎระเบียบภาครัฐเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ภาคธุรกิจไม่สามารถที่จะขยายตัวได้หรือขยายการลงทุนไปแข่งขันในตลาดโลกได้ ภาคธุรกิจต้องเปลี่ยนไปตามสถานการณ์โลกตลอด แต่ภาครัฐไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลยมาตลอด 20 ปี ทั้งโครงสร้าง กระทรวง กรม ต่างๆ ไปจนถึงวิธีคิดของข้าราชการ
“นี่คือจุดต่างของพรรคก้าวไกล หัวหน้าพรรคท่านอื่นอาจจะเสนอไอเดียต่างๆ มากมาย แต่ไอเดียต่างๆ เป็นไปไม่ได้ ถ้าเรายังอยู่ในโครงสร้างรัฐหน้าตาแบบเดิม เราต้องรื้อรัฐราชการรวมศูนย์ กระจายอำนาจ ทลายทุนผูกขาด เพื่อเพิ่มศักยภาพให้ภาครัฐ เติมศักยภาพให้ประชาชน”
ศิริกัญญา กล่าว