ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล แสดงความเป็นห่วงกรณีค่าครองชีพและราคาสินค้าที่เตรียมปรับขึ้นแบบหน้ากระดานว่า เรื่องนี้นอกจากจะน่ากังวลใจแล้ว ยังพิสูจน์ให้เห็นว่ามาตรการที่รัฐบาลใช้อยู่นั้นไปต่อไม่ได้แล้ว เช่น การอุดหนุนราคาสินค้าบางรายการ เช่น ราคาน้ำมันและแก๊สหุงต้ม มาถึงจุดที่รัฐบาลอุดหนุนต่อไม่ไหว ส่วนการขอร้องผู้ประกอบการให้ช่วยตรึงราคาสินค้า ผู้ประกอบการก็ตรึงราคาเอาไว้ไม่ไหวเช่นกัน
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีสินค้าที่ปรับขึ้นราคากว่า 270 รายการ และเมื่อย่างเข้าเดือนพฤษภาคม สินค้าก็กำลังทยอยปรับราคาขึ้นแบบหน้ากระดานเพิ่มขึ้น เช่น ไข่ไก่ เบอร์ 4 จาก 3.50 บาท เป็น 4 บาทต่อฟอง, หมูเนื้อแดงปรับขึ้นเป็น 200 บาท ต่อ กิโลกรัม, บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปรับขึ้นซองละ .50-1 บาท เป็นซองละ 7 บาท, เครื่องดื่มชูกำลัง ขึ้นเป็น 12 บาทต่อขวด, น้ำมันดีเซล จาก 30 บาท เป็น 32 บาทต่อลิตร, แก๊สหุงต้มขึ้นเป็น 348 บาทต่อถัง เป็นต้น
ที่น่ากังวลคือ นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุดการขึ้นราคาสินค้า ขณะที่เงินเฟ้อ ซึ่งเป็นราคาที่ผู้บริโภคต้องจ่าย ขึ้นเพียง 4.65% แต่ฝั่งต้นทุนของผู้ประกอบการขึ้นไปรอถึง 12.8% เท่ากับว่าการที่ราคาสินค้ายังไม่ขึ้นตอนนี้ เป็นการแบกรับจากฝั่งผู้ประกอบการ แต่ไม่สามารถส่งผ่านราคามาที่ผู้บริโภคได้ เนื่องจากกำลังซื้อที่หดตัวลง
มาตรการบรรเทาค่าครองชีพที่รัฐบาลได้ประกาศว่าตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม เป็นต้นไปจะมีออกมา 10 มาตรการ ที่ส่วนใหญ่แล้วมีลักษณะจำกัดมาก เป็นมาตรการที่เฉพาะกลุ่มมากๆ และยังไม่ทั่วถึง ไม่ครอบคลุมประชากรในแต่ละกลุ่ม และต่อปัญหาค่าครองชีพในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นมาตรการช่วยค่าแก๊สหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและหาบเร่แผงลอย มาตรการอุดหนุนค่าน้ำมันแก๊สโซฮอลล์สำหรับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง การคงราคา NGV/LPG สำหรับแท็กซี่ มาตรการช่วยลดค่าไฟสำหรับครัวเรือนที่ใช้ไฟไม่เกิน 300 หน่วย การลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม
คำถามสำคัญก็คือ การขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้ตรึงราคาสินค้าต่อไป ซึ่งทำไม่ได้จริง จะยังดำเนินต่อไปเรื่อยๆ แล้วจะมีมาตรการอื่นออกมารองรับปัญหาค่าครองชีพของประชาชนอีกหรือไม่ฒ
พรรคก้าวไกล จึงเสนอว่าควรต้องมีการเติมเงินในฝั่งรายได้ โดยการช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับประชาชนโดยตรง เป็นเงินสดหรือผ่านแอพพลิเคชั่นแบบที่ทำมาก็ได้ เพราะในขณะนี้ไม่มีทางเลือกอื่น เนื่องจากราคาสินค้าที่ขึ้นแบบหน้ากระดาน ที่ทำให้การช่วยเหลือแบบเฉพาะกลุ่มไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป
“ถ้าเราเติมค่าครองชีพให้กับประชาชน ธุรกิจรายย่อยที่รับสินค้ามาแพงอยู่แล้ว จะสามารถส่งผ่านราคาไปให้ผู้บริโภคได้ สามารถขายราคาที่แพงขึ้นได้อีกเล็กน้อย แต่ทุกคน รวมทั้งสภาวะเศรษฐกิจ ก็จะยังเดินต่อไปได้ ไม่ชะงักงันแบบทุกวันนี้”
ศิริกัญญา กล่าว
ศิริกัญญายังแถลงต่อถึงการพิจารณางบประมาณปี 2566 วาระที่ 1 ที่จะเกิดขึ้นในสมัยประชุมสภาที่จะมาถึงนี้ ซึ่งจะเป็นงบประมาณก้อนสุดท้ายของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งพรรคก้าวไกลจะมีการจัดกิจกรรม Hackathon เชิญชวนประชาชนร่วมการตรวจสอบงบประมาณประจำปีไปด้วยกันกับพรรคก้าวไกล โดยกิจกรรมจะมีขึ้นในวันที่ 5 มิถุนายน นี้ สำหรับผู้สนใจสามารถลงทะเบียนผ่านลิงก์นี้ shorturl.at/yBHOZ
