
ที่ประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเห็นชอบตามที่ แสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง มีความเห็นให้ยุติเรื่อง กรณี ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นคำร้องขอให้ กกต. พิจารณาสั่งยุบพรรคก้าวไกล เนื่องจากสมาชิกและกรรมการบริหารพรรคกระทำการใน 10 ประเด็น
หลังการตรวจสอบ กกต. เห็นว่าการกระทำทั้ง 10 ประเด็น ยังไม่เข้าข่ายเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามมาตรา 92(2) พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560
กกต. ชี้แจงเหตุผลที่ตีตก 10 ประเด็นที่ถูกยกมาร้องเรียน มีใจความสำคัญ ดังนี้
📌 การใช้ตำแหน่งหน้าที่ ส.ส. ประกันตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาการชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองและคดีอาญา มาตรา 112 เป็นสิทธิเฉพาะตัวของบุคคล ซึ่งมีกฎหมายบัญญัติให้กระทำได้และเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ ไม่ได้เป็นการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองซึ่งมีผลผูกพันพรรคก้าวไกล
📌 ส.ส. เข้าร่วมชุมนุมและเข้าพื้นที่การชุมนุม เป็นการใช้สิทธิที่ได้รับการคุ้มครองตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ และไม่ปรากฏข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานว่า ส.ส. ให้การสนับสนุนผู้ชุมนุมไม่ว่าทางการเงิน การเป็นแกนนำปลุกระดมมวลชนให้เข้าร่วมชุมนุม หรือสนับสนุนอื่นใดให้ผู้ชุมนุมก่อกวนคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี
📌 การเสนอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 และเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญของประชาชน หรือฉบับไอลอว์ เป็นร่างหลักในการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการกระทำได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อยู่ในบทบัญญัติในมาตรา 255 และ 256
📌 แถลงการณ์สนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร ไม่ปรากฏถ้อยคำใดที่มีลักษณะสนับสนุนส่งเสริมให้ผู้ชุมนุมก่อกวนคุกคามความสงบเรียบร้อยศีลธรรมอันดีของประชาชน ซึ่งการแสดงความคิดเห็นได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 34
📌 พรรคก้าวไกลมีมติให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และแสดงความเห็นว่าเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายมาตรา 112 อย่างไม่เป็นธรรม เป็นเพียงการแสดงความเห็นในการทำหน้าที่ของ ส.ส.ที่เห็นว่ากฎหมายใดเป็นอุปสรรคหรือไม่เป็นประชาธิปไตย และยังไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่าพรรคใช้กลไกระบบรัฐสภาเพื่อเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา