🚅 สุรเชษฐ์ ย้ำ รฟม. ล้มการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม กีดกัน BTS เหลือ BEM กินรวบยื่นซองประมูลเพียงเจ้าเดียวทำประเทศเสียหาย 68,000 ล้านบาท
จากกรณีที่ รฟม. ชี้แจงว่าการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม “โปร่งใส-ตรวจสอบได้” และบอกว่าส่วนต่าง 68,000 ล้านบาทไม่มีจริง สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ออกมาตอบโต้ ว่า ชี้แจงของ รฟม. ฟังไม่ขึ้น เพราะ รฟม. ไม่เปิดให้ BTS เข้ามาแข่งขันประมูล ทำให้ราคาที่ประชาชนต้องจ่ายแพงกว่าความเป็นจริง เป็นความจริงนอกสำนวนที่เกิดจากการเล่นตุกติกกีดกัน BTS
หาก รฟม. คิดว่าการประมูลของตน “โปร่งใส-ตรวจสอบได้” จริง เหตุใดจึงเบี้ยวไม่กล้ามาตอบคำถามซึ่งๆ หน้า ต่อหน้าคณะอนุกรรมาธิการศึกษาฯ ที่ได้มีการเรียกมาชี้แจงถึง 2 ครั้ง แต่ รฟม. เลือกที่จะตอบแบบเลี่ยงคำถาม โดยชี้แแจงแบบต่างคนต่างพูดผ่านสื่อ ควรกล้าเผชิญหน้ากับตัวแทนของประชาชนและคู่กรณี (BTS) ให้ประชาชนได้รับรู้ว่า “ใครแถ”
ทั้งนี้ จากการสอบข้อมูลในชั้นกรรมาธิการทำให้เราได้รู้ข้อเท็จจริงว่า
1.- การประมูลครั้งแรกผิดปกติ มีการเปลี่ยนเกณฑ์การประมูลกลางอากาศ โดยหากไม่มีการเล่นตุกติก BTS ขอรับเงินสนับสนุนจากรัฐประมาณ 10,000 ล้านบาท
2.- ด้วยความที่มีการเล่นตุกติก จึงมีหลายคดีคาราคาซังอยู่ในศาล แต่ รฟม. เลือกที่จะล้มประมูลแล้วเริ่มใหม่
3.- การประมูลรอบใหม่ (รอบ 2) BTS ถูกกีดกัน ทำให้ไม่มีการแข่งขันที่แท้จริง ไม่ต้องอ้างข้อเทคนิคสารพัด เพราะเห็นๆ กันอยู่ว่าผู้ประกอบการรถไฟฟ้ารายใหญ่ในไทยมีเพียง 2 ราย คือ BTS และ BEM ทั้ง 2 รายควรเข้าแข่งขันได้
4.- เมื่อไม่มีการแข่งขันที่แท้จริง รัฐก็ต้องจ่ายแพงกว่าที่ควรจะเป็น โดย BEM (ผู้ชนะรอบใหม่) ขอเงินภาษีของประชาชนไปอุดหนุนมากถึง 78,000 ล้านบาท
ส่วนต่าง 68,000 ล้านบาทจึงมีอยู่จริง แต่เป็น “ความจริงนอกสำนวน” เพราะ รฟม. ตั้งใจล้มการประมูลที่มีการแข่งขัน แล้วเริ่มใหม่แบบกีดกัน BTS แต่ BTS ก็เลือกที่จะเก็บซองราคาเอาไว้เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ซีลอย่างดีและเปิดพิสูจน์ผ่านการ Live สดให้ประชาชนดูแบบเห็นๆ ว่าไม่ได้แต่งเติมเข้ามาใหม่
ส่วนต่าง ค่าโกง 68,000 ล้านบาทนี้จะไปลงกระเป๋าใคร/พรรคใดบ้างตนไม่รู้ แต่หากปล่อยให้รัฐบาลนี้รีบเซ็นไปก่อนเลือกตั้ง ประเทศจะเสียหายมาก พรรคก้าวไกลจึงกำลังเตรียมคำร้องเพื่อยื่นฟ้องศาลปกครอง และขอประจานให้ประชาชนเห็นความฉ้อฉลของรัฐบาลนี้ในการหากินกับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้ม