เราคงไม่หวังให้ตำรวจสามารถทำงานจับโจรผู้ร้ายอย่างตรงไปตรงมาได้ ถ้าแม้แต่โจรผู้ร้ายในเครื่องแบบยังได้อยู่ในตำแหน่งจนเกษียณ
รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าว สืบเนื่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจกรณีปล่อยปละละเลยทุจริตที่เกิดขึ้นในกองบินตำรวจ หรือ “ตั๋วช้าง 2” ว่าผ่านไปกว่า 3 เดือนแล้ว การดำเนินการยังไม่มีความคืบหน้า
ทั้งนี้ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนั้น รังสิมันต์ได้อภิปรายการทุจริตใน 3 เรื่อง ได้แก่
1.- เริ่มจากในปีงบประมาณ 2563 กองบินตำรวจได้รับงบสำหรับซ่อมบำรุงเครื่องบินของตัวเอง 950 ล้านบาท แต่พอผู้การกองบินฯ ขณะนั้น คือ พล.ต.ต.กำพล กุศลสถาพร ไปดำเนินการสั่งจ้างซ่อม สั่งซื้ออะไหล่มาจริงๆ เป็นค่าใช้จ่ายสูงถึง 3 เท่าของงบที่ได้รับมา เท่ากับว่ามีหนี้ค้างอยู่ถึง 1,824 ล้านบาท ซึ่งส่งผลทำให้อะไหล่หลายชิ้นที่ส่งซ่อมไปไม่ถูกส่งกลับมา มีเครื่องบินเอาขึ้นบินไม่ได้ 11 ลำ ส่วนคู่สัญญาคือการบินไทยก็เลื่อนการต่อสัญญาซ่อมรอบใหม่ ทำให้เครื่องบินไม่รับการตรวจเช็คตามรอบที่ควรเป็น ทำให้ภายในกองบินตำรวจปั่นป่วนไปหมด
2.- พล.ต.ต.กำพล ยังไปทำสัญญาแลกเศษอะไหล่เครื่องบิน 6 พันกว่าชิ้น ที่ตอนซื้อมามูลค่าถึง 1,100 ล้านบาท เกินวงเงินที่ตัวเองมีอำนาจอนุมัติ แถมที่แลกไปนั้นไม่ได้มีแค่เศษเหล็ก แต่มีเครื่องยนต์ของเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ที่ยังใช้ได้ ราคายังขายได้ถึง 111 ล้านบาท ยังเอาไปแลกใบพัดหางเฮลิคอปเตอร์ 2 ชุด ราคารวม 2 ล้านกว่าบาทเท่านั้น เรื่องนี้ในกองบินตำรวจก็ตรวจสอบกันไปตั้งแต่มกรา 64 ข้ามปีมามกรา 65 พล.ต.อ.ปิยะคนเดิมอีกแล้ว สั่งให้ตรวจสอบซ้ำใหม่อีกรอบ เตะถ่วงเหมือนกันกับเรื่องแรก
ซึ่งเรื่องว่ามีกรณีทุจริตคอร์รัปชันแบบนี้เกิดขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ก็รู้เรื่องนี้มาแล้วตั้งหลายเดือน แต่ก็ยังปล่อยให้เกิดการเตะถ่วงการตรวจสอบหาคนผิด ยังปล่อยให้ตำรวจทำตัวสะเพร่าไม่ยอมปฏิเสธหนี้ให้ทันเวลา แล้วก็ค่อยมาเอาเงินภาษีประชาชนไปจ่ายง่ายๆ แถมยังไปฟอกขาวรับรองให้การก่อหนี้เกินงบของกองบินตำรวจสมัย พล.ต.ต.กำพล ชอบด้วยกฎหมายงบประมาณ
3.- ที่ร้ายแรงที่สุดคือ พล.ต.ต.กำพล พอจะต้องย้ายออกจากกองบินตำรวจ ก็ไปทำหนังสือถึงบุคคลในสถาบันกษัตริย์เพื่อขอเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์พระราชพาหนะต่อ พอมีหนังสือตอบกลับอนุญาตมาจากเลขาฯ ส่วนตัวพระเทพฯ ที่ผมเรียกว่าเป็นตั๋วช้างภาค 2 ก็เอาไปอ้างเพื่อตั้งศูนย์ที่ใช้ชื่อ “เดโชชัย” ให้มีตัวเองเป็น ผอ. ถวายการบิน ใช้อำนาจข้ามหัวผู้การกองบินคนปัจจุบัน โดยที่ตัวเองก็ไม่ได้ตรวจสุขภาพตามเกณฑ์ของนักบินตำรวจ ทำให้พระราชวงศ์ที่โดยสารไปด้วยอาจเสี่ยงภัยได้
“เรื่องนี้ ผบ.ตร.คนใหม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ เข้ามาแล้วทำอะไรบ้างไหม? แล้วผู้การกองบินคนปัจจุบัน ทุกวันนี้ก็ยังเออออตาม ผอ.ศูนย์เถื่อนนั่นอยู่อีกหรือเปล่า ผมขอเรียกร้องให้พวกท่านเร่งดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบเอาผิดผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทั้งที่ผมว่าไปและที่อาจไม่ได้เอ่ยถึง ณ ที่นี้ด้วย ไม่งั้นสังคมก็มีแต่จะเห็นว่าพวกท่านรู้เห็นเป็นใจกับเขาไปด้วย”
รังสิมันต์ กล่าวทิ้งท้าย
“อยากเรียกร้องให้มีการจัดการดำเนินการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอรัปชั่นในองค์กรตำรวจ เพราะหากไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แม้มีหลักฐานเพียงนี้ คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้ สุดท้ายคนที่รู้ตัวว่าตัวเองผิด ก็จะเข้าสู่ศูนย์กลางอำนาจเพื่อใช้ตั๋ว เราคงไม่หวังให้ตำรวจสามารถทำงานจับโจรผู้ร้ายอย่างตรงไปตรงมาได้ ถ้าแม้แต่โจรผู้ร้ายในเครื่องแบบยังได้อยู่ในตำแหน่งจนเกษียณ”