ก้าวไกลผิดหวัง ส.ส.รัฐบาลขวางสภาตรวจสอบสายสีส้ม พบกำลังพยายามชงเรื่องเข้า ครม. หวังฟันส่วนต่าง “ค่าโกง” 68,613 ล้านบาท
วันนี้ ในสภา สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองหัวหน้า และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา “ขอให้สภาผู้แทนราษฎรลงมติเพื่อส่งความเห็นและข้อเสนอแนะสำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มไปให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาดำเนินการ” เพื่อใช้อำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติติดตามตรวจสอบการทุจริตประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม
แต่น่าเสียดาย ที่ผลการลงมติเสียงของฝ่ายค้านแพ้เสียงข้างมากของฝ่ายรัฐบาลไป 139 ต่อ 190 คะแนน พรรคก้าวไกลจึงแถลงข่าวใน 4 ประเด็นด้วยกัน
1.- ขอขอบคุณพรรคร่วมฝ่ายค้านที่ทำให้การเสนอญัตติในครั้งนี้เกิดขึ้น เพราะได้มีการประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านเมื่อสัปดาห์ที่แล้วและมีการพูดคุยในวิปฝ่ายค้านเมื่อวาน จึงเป็นที่มาที่ไปของสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ เพราะพรรคฝ่ายค้านทุกพรรคเห็นตรงกันว่ากรณีรถไฟฟ้าสายสีส้มเป็นเรื่องสำคัญที่จะส่งผลให้ภาษีประชาชนหายไปจาก “ส่วนต่าง” ของการประมูล 2 ครั้ง รวมทั้งสิ้น 68,613 ล้านบาท เราจึงต้องการให้อำนาจนิติบัญญัติเข้ามาตรวจสอบ
2.- แต่อย่างไรก็ตาม เรายังรู้สึกเสียดายที่สภาโดยเสียงข้างมากของ ส.ส.รัฐบาล จงใจที่จะหลีกเลี่ยงการตรวจสอบโดยสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งข้อเท็จจริงก็ชัดเจน เป็นข่าวอยู่มากมายอย่างกว้างขวางถึงประเด็นการประมูลโดยมิชอบของรถไฟฟ้าสายสีส้ม
3.- มีข้ออ้างจาก ส.ส. บางส่วนที่ลงมติไม่เห็นด้วยว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบในชั้นศาล จากคดีที่เอกชนฟ้องร้องกันหลายคดี พรรคก้าวไกลเราขอโต้แย้งว่าต้องพิจารณาว่าอำนาจตุลาการและอำนาจนิติบัญญัติมีความต่างกัน และเดินไปพร้อมๆ กันได้ ไม่ต้องรอให้ทางใดทางหนึ่งจบ
4.- ถ้าปล่อยให้มีการเซ็นสัญญากันโดยยังไม่มีความชัดเจนแบบทุกวันนี้ จะกลายเป็นปัญหาผูกพันในอนาคตอย่างน้อย 35 ปี ดังนั้นเรื่องนี้ต้องตรวจสอบคู่ขนานกัน
5.- น่าผิดหวังอย่างยิ่งที่สภาเสียงข้างมาก โดย ส.ส.รัฐบาล เลือกที่จะปฏิเสธไม่ให้พิจารณาในวาระสายสีส้ม ทั้งที่วาระปกติเป็นเพียงเรื่องเพื่อทราบ ในขณะที่สัมปทานรถไฟฟ้าสายสีส้มเป็น ‘เรื่องด่วน’ ที่กำลังมีความพยายามรีบชงเข้า ครม. นี่จึงเป็นเรื่องสำคัญจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องมีการตรวจสอบการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มในครั้งนี้
6.- ขอให้ประชาชนรวมถึงสื่อมวลชนทุกท่านช่วยกันจับตาว่ารถไฟฟ้าสายสีส้มจะมีการเร่งอนุมัติโดย ครม. ก่อนยุบสภาหรือไม่ เพราะเรากำลังพูดถึงงบประมาณมหาศาล นี่คือเงินส่วนต่าง “ค่าโกง” ที่มาถึง 68,613 ล้านบาท และจะเป็นปัญหาของประเทศไปอีก 35 ปี!