เท่าพิภพ เล่านาทีสมาชิกรัฐสภาพบผู้แทนยูเครน โดนถามเหตุใดรัฐบาลไทยถึงงดออกเสียงประณามรัสเซียก่อสงคราม
ในการประชุมสมัชชารัฐสภาอาเซียน (AIPA) ครั้งที่ 43 ที่ประเทศกัมพูชา วันที่ 3 ได้มีกิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กลุ่มย่อยร่วมกับผู้แทนจากประเทศผู้สังเกตการณ์ ความน่าสนใจอยู่ที่การประชุมกลุ่มย่อยในหัวข้อ “Peace and Sustainable Development and Economic Recovery after COVID19” ซึ่งหนึ่งในผู้แทนฝั่งรัฐสภาไทยคือ เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กรุงเทพ (เขตธนบุรี คลองสาน บางกอกใหญ่) พรรคก้าวไกล และมีประเทศผู้สังเกตการณ์ที่แลกเปลี่ยนร่วมคือเบรารุส และยูเครน
เท่าพิภพเล่าว่า คณะผู้แทนจากยูเครนได้บอกถึงถึงความสำคัญว่ามาที่นี่เพื่อบอกเล่าถึงความสูญเสียที่ประชาชนยูเครนต้องเผชิญ ในตอนต้นหลายประเทศก็ยังสงวนท่าทีเป็นกลาง จนมาถึงฟิลิปปินส์และสิงคโปร์ ที่ได้แสดงความเห็นใจต่อเหตุการณ์ ยืนยันหลักการกฎหมายระหว่างประเทศและการเคารพอธิปไตย จากนั้นประธานในที่ประชุมชาวกัมพูชาก็ได้แบ่งปันประสบการณ์ร่วมของชาวกัมพูชาที่เคยเผชิญสงครามกลางเมือง พร้อมทั้งให้กำลังใจผู้แทนยูเครนให้ความขัดแย้งจบลงโดยเร็วไว
เท่าพิภพบรรยายความรู้สึกในขณะนั้นให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า “ยากที่จะเอ่ย แต่รู้สึกได้” (it is hard to say but it is easy to feel) จึงได้ตัดสินใจปิดสคริปต์และข้อมูลที่ตนและฝ่ายเลขาสภาเตรียมมา และพูดสิ่งที่มาจากความรู้สึกจากหัวใจ
เท่าพิภพกล่าวว่า คนรุ่นตนเกิดมาไม่เคยเจอสงครามในประเทศแม้แต่ครั้งเดียว จนบางครั้งเราคิดว่าสันติภาพมันคือของธรรมดา เป็นสิ่งที่เราไม่ต้องต่อสู้เพื่อมัน โดยไม่เคยทราบเลยว่าในอาเซียนของเราเองก็มีความขัดแย้งระหว่างประเทศมาอย่างยาวนาน จนพวกเราคิดว่าเราต้องหยุดความขัดแย้ง มานั่งโต๊ะเดียวกันและพูดคุยกันได้อย่างวันนี้
จากนั้นผู้แทนยูเครนได้พูดอีกครั้งถึงการลงมติประณามรัสเซียในที่ประชุมสหประชาชาติ ที่ไทยลงมติงดออกเสียง ผู้แทนยูเครนเรียกร้องว่าการอยู่อย่างนิ่งเฉยหรือการแสดงเจตนาไม่ขัดขวางเพียงเท่านี้ก็เป็นเหมือนการให้ความชอบธรรมแก่ผู้รุกราน ทำให้ผู้รุกรานไปกล่าวอ้างว่าไม่ใช่ทุกประเทศที่เห็นว่าการละเมิดอธิปไตยชาติอื่นเป็นสิ่งผิด
“ความรู้สึกของผมในตอนนั้น คืออับอายเป็นอย่างมากที่จะต้องมานั่งอยู่ตรงนี้ เพราะรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ทำอะไรที่ผิดหลักการกฎหมายระหว่างประเทศ สิทธิมนุษยชน และสามัญสำนึกของทุกคนที่จะพึงมีได้ โดยการไม่ประณามการรุกรานยูเครนของรัสเซีย” เท่าพิภพกล่าว
ส.ส.ยูเครน ซึ่งเป็นผู้หญิงและเป็นคุณแม่ของลูก 2 คนซึ่งยังอาศัยอยู่ในกรุงเคียฟ ยังได้เล่าถึงอาชญากรรมที่เกิดกับผู้หญิงชาวยูเครนที่ถูกข่มขืนมากมาย และได้เล่าถึงความยากลำบากและอาชญากรรมที่ไม่น่าเชื่อว่าเพื่อนมนุษย์จะทำต่อกันได้
ในขณะที่ประธานกำลังจะปิดประชุม เท่าพิภพจึงได้ขออนุญาตใช้สิทธิ์เพื่อกล่าวกับตัวแทนยูเครนจากใจ:
“อยากให้คุณและชาวยูเครนเชื่อว่าแม้การงดออกเสียงนั้นเป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่มันเกิดขึ้นจากฝ่ายบริหาร พวกเราคือสมาชิกรัฐสภาและผมเองก็เป็นฝ่ายค้าน พวกเราพยายามเรียกร้องส่งเสียงในสภาให้รัฐบาลประณามการกระทำของผู้รุกราน หลายๆ ท่านแม้เป็น ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลก็ยังไม่เห็นด้วยกับการงดออกเสียงครั้งนี้ ผมขออภัยเป็นอย่างยิ่งที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น และหวังว่าเราจะได้มีผู้นำประเทศที่เข้าใจหลักการสากลของโลกมากกว่านี้”
เท่าพิภพ กล่าวทิ้งท้าย
“ผมเชื่อว่าไม่มีประเทศใดควรจะถูกรุกราน และไม่มีการพัฒนาใดจะเกิดขึ้นได้หากไม่เกิดสันติภาพขึ้นได้บนโลกใบนี้ ขอให้กำลังใจชาวยูเครนทุกท่าน”