‘พิธา’ พบเครือข่ายแรงงาน ชี้โจทย์ยุคเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมไม่ง่าย ย้ำก้าวไกลให้ความสำคัญ สนับสนุนขึ้นค่าแรง 450 บาททันทีปี 2566 – เพิ่มคุ้มครองสิทธิ – สนับสนุนคูปองเรียนรู้ทักษะใหม่ บอกเป็นนิมิตหมายที่ดี พรรคการเมืองเห็นตรงกันต้องเพิ่มค่าแรง
วันนี้ที่ศูนย์การเรียนรู้สหภาพโตโยต้าประเทศไทย พรรคก้าวไกลจัดการประชุมใหญ่เครือข่ายผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศ โดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล, สุเทพ อู่อ้น ประธานกรรมาธิการการแรงงาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล, จรัส คุ้มไข่น้ำ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และ วรรณวิภา ไม้สน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยตัวแทนเครือข่ายแรงงาน นำโดย สุนทร บุญยอด อดีตกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ เซีย จำปาทอง และ ธนพร วิจันทร์ ขึ้นเวทีประกาศนโยบายก้าวไกลเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของผู้ใช้แรงงาน
พิธา กล่าวว่า ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยกำลังเจอความท้าทายใน 2 อุตสาหกรรมที่สำคัญของประเทศ คืออุตสาหกรรมยานยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเผชิญการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี ดังนั้น คนที่เป็นผู้นำแรงงานต้องมาพูดคุยกันว่าจะรับมือความเปลี่ยนแปลงนี้อย่างไร
ในส่วนพรรคก้าวไกล ให้ความสำคัญกับพี่น้องแรงงานอย่างมาก และได้ออกแบบนโยบายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตคนทำงานทุกคนอย่างยั่งยืน เช่น ถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล ค่าแรงขั้นต่ำต้องขึ้นทันที 450 บาท โดยคำนวณให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อและดัชนีค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นทุกปี ตั้งต้นจากปี 2554 ที่ค่าแรงขั้นต่ำปรับขึ้นเป็น 300 บาทต่อวัน
“พรรคก้าวไกลเสนอว่าค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้นทันที 450 บาทในปี 2566 ส่วนพรรคการเมืองอื่นก็ได้เสนอตัวเลขและระยะเวลาเป้าหมายที่ต่างออกไป ผมคิดว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่พรรคการเมืองเห็นตรงกันว่าต้องเพิ่มรายได้ของผู้ใช้แรงงานให้สูงขึ้น ให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าปัจจุบัน” พิธากล่าว
หัวหน้าพรรคก้าวไกลกล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาของผู้ใช้แรงงานนั้น ทำแค่เรื่องค่าแรงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องเพิ่มการคุ้มครองสิทธิแรงงานด้วย ไม่ว่าจะเป็น ชั่วโมงการทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ สิทธิวันหยุด สิทธิลาคลอดที่เพิ่มขึ้น สิทธิการรวมตัวกันของแรงงานตามอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) นอกจากนี้ ผลกระทบจากโควิด-19 ที่ผ่านมา ทำให้เราเห็นความสำคัญของการที่แรงงานทุกคนต้องมีสิทธิประกันสังคม และรัฐต้องสนับสนุนการพัฒนาทักษะของแรงงานเพื่อเพิ่มเติมประสิทธิภาพการทำงานในโลกปัจจุบัน เช่น นโยบายคูปองคนวัยทำงานเพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ รัฐร่วมจ่าย 80% จากราคาหลักสูตร แต่ไม่เกิน 5,000 บาทต่อคนต่อปี
พิธากล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีปัญหาของคนทำงานในวงการอื่นๆ เช่น คนทำงานในกองถ่าย ที่ต้องทำงานหนักมากกว่าวันละ 16 ชั่วโมงต่อวัน แพทย์และพยาบาลที่ส่วนใหญ่ทำงานไม่ต่ำกว่า 90 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ในขณะที่มาตรฐานแรงงานอยู่ที่ 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือแรงงานเย็บผ้าที่รับงานไปทำที่บ้าน มีรายได้ต่ำเพราะถูกกดค่าแรง ไม่มีสวัสดิการและหลักประกันใดๆ พรรคก้าวไกลยืนยันจะต่อสู้เพื่อสิทธิแรงงาน ดูแลคนทำงานทุกคนในประเทศนี้ เพราะเชื่อว่าพวกเราทุกคนคือคน 99% ที่เป็นผู้ใช้แรงงานที่สร้างสรรค์สังคม
ด้าน สุนทร กล่าวว่า ผู้ใช้แรงงานและคนทำงานจำเป็นต้องมีพรรคการเมืองของตัวเอง ต้องเป็นพรรคที่มีอุดมการณ์ยืนหยัดอยู่กับคนยากจนและคนที่ยากลำบากในสังคม สำหรับพรรคก้าวไกลเป็นพรรคมวลชน สร้างความเข้มแข็งจากการสนับสนุนของประชาชน มีตัวแทนที่เป็นแรงงานมาจากโรงงานถึง 4 คน เป็นทั้ง ส.ส. บัญชีรายชื่อและเป็น ส.ส.เขตที่เคยชนะการเลือกตั้งในจังหวัดชลบุรี จนเกิดคำกล่าวว่า ‘แรงงานล้มบ้านใหญ่’ ถึงแม้เครือข่ายแรงงานของอดีตพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบลง แต่เครือข่ายแรงงานก้าวไกลยังอยู่และขับเคลื่อนต่อ จึงขอส่งไม้ต่อให้พิธา สร้างความเปลี่ยนแปลงแก่อนาคตของพี่น้องผู้ใช้แรงงานทุกคน