
🔥พรรคก้าวไกล เสนอ (มาหลายรอบแล้ว) ว่ารัฐบาลต้องเร่งเจรจาเปลี่ยนนโยบายพลังงานให้เลิกเอื้อนายทุน เห็นหัวเห็นผลประโยชน์ประชาชนบ้าง
วรภพ วิริยะโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวรับไม่ได้ที่รัฐบาลเตรียมขึ้นค่าไฟผลักภาระให้ภาคธุรกิจและประชาชน โดยไม่เข้าไปแตะแหล่งผลประโยชน์ของกลุ่มทุน
โดยรัฐบาลจะให้ของขวัญปีใหม่ของคนไทยเป็นค่าไฟแพงขึ้น 20% ตั้งแต่เดือน ม.ค. 66 เป็นต้นไป ค่าไฟจะแพงขึ้น 1 บาท/หน่วย จากเดิม 4.72 บาท/หน่วย เป็น 5.7 บาท/หน่วย ส่วนคนที่มีรายได้น้อย ใช้ไฟไม่เกิน 500 หน่วย/เดือน ยังได้รับการยกเว้นให้ใช้ไฟไปอีก 6 เดือน (ครบอายุรัฐบาลพอดี)
รัฐบาลชอบอ้างว่าราคาน้ำมันแพงขึ้น เลยต้องผลักภาระขึ้นค่าไฟมาให้ประชาชนและธุรกิจ แต่เราตั้งคำถามว่า ได้มีความพยายามเจรจาเปลี่ยนนโยบายพลังงานเอื้อทุน เพื่อบรรเทาปัญหาภาระค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไหม
เรามีไฟฟ้ามากเกินจำเป็นเพราะรัฐบาลอนุญาตให้เอกชนสร้างโรงไฟฟ้าเยอะเกิน โรงไฟฟ้าเอกชนขนาดใหญ่ 7 จาก 12 โรงไม่ได้เดินเครื่องเลยแม้แต่เพียงวันเดียว เราจ่ายค่าไฟให้กับกลุ่มทุนเหล่านี้เดือนละ 2,400 ล้านบาท จะไม่ให้พวกเขาเป็นเจ้าสัวได้อย่างไร
วิธีลดภาระประชาชนที่ควรทำตั้งนานแล้ว คือรัฐบาลต้องเร่งเจรจากับเอกชนเหล่านี้ให้ลด “ค่าประกันกำไร” โรงไฟฟ้าเอกชน โดยอาจแลกกับการยืดสัญญาออกไป และในอนาคตเราไม่มีความจำเป็นต้องสร้างโรงไฟฟ้าเหล่านี้ที่เป็นถ่านหินและแก๊สธรรมชาติใหม่แล้ว นี่จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการเจรจาเพื่อลดค่าใช้จ่าย
อีกเรื่องที่สำคัญ คือเรามีแก๊สธรรมชาติจากอ่าวไทย ต้นทุนเพียง 2 บาท/หน่วย ผลิตได้ 2,600 ลบ.ฟุต/วัน เพียงพอสำหรับผลิตไฟฟ้าในประเทศ แต่รัฐบาลกลับนำแก๊สราคาถูกไปประเคนให้ ปตท. ขายเป็นเชื้อเพลิงอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมปิโตรเคมีก่อน
เมื่อแก๊สธรรมชาติราคาถูก ถูกประเคนให้ภาคอุตสาหกรรมหมด เราจึงต้องนำเข้า LNG จากต่างประเทศราคา 10 บาท/หน่วย ขึ้น-ลงตามตลาดโลก นี่จึงเป็นเหตุผลที่เราต้องจ่ายค่าไฟแพงขึ้นในปีหน้าเป็นหน่วยละเกือบ 6 บาท
เราเสนอวิธีแก้ปัญหาดังนี้
- เปลี่ยนนโยบาย นำเอาก๊าซจากอ่าวไทยมาเป็นไฟฟ้าให้ประชาชนใช้ก่อน
- จูงใจให้อุตสาหกรรมมใช้ก๊าซไปใช้เชื้อเพลิงอื่นที่มีต้นทุนที่ถูกกว่า
- ส่งสัญญาณให้อุตสาหกรรมปิโตเคมีที่ใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับปลี่ยนเม็ดพลาสสติก ต้องเปลี่ยนเทคโนโลยี
- รัฐบาลต้องเปลี่ยนสัญญาสัมปทาน ซึ่งเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของ ปตท.สผ. ผู้ได้รับสัมปทาน ให้เร่งผลิตแก๊สธรรมชาติในแหล่งบงกชและเอราวัณมากขึ้น เพื่อลดการนำเข้ามีแก๊สธรรมชาติลง รวมทั้งต้องเร่งเจรจาแหล่งแก๊สธรรมชาติในพื้นที่ทับซ้อนร่วมกับกัมพูชา
ประชาชนทุกคนจำเป็นต้องติดตามให้รัฐบาลเปลี่ยนนโยบายการจัดการพลังงาน ทรัพยากรของประเทศเรามีเพียงพอ แต่เป็นเพราะการกำหนดนโยบาย ที่ทำให้พวกเราต้องแบกรับภาระเงินในกระเป๋า ในขณะที่กลุ่มทุนยังอิ่มหมีพีมัน