💰 พรรคก้าวไกลเสนอ “5 ต.” กู้วิกฤติเอสเอ็มอี “สร้างแต้มต่อ-เติมทุน-ตัดต้นทุน-เติมตลาด-ตั้งสภา SME” เสริมพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน
เมื่อวาน (16 ธ.ค. 65) ช่วงเย็น มีวงเสวนา “อนาคต SME ไทยภายใต้การเมืองไทย 2023” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วยตัวแทนอีก 4 พรรคการเมืองได้มีโอกาสร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์และนโยบาย เนื้อหาที่พิธาพูดเป็นอย่างไรเราจะสรุปให้ฟัง
ปัจจุบัน SME ยังคงไม่ฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับการใส่ใจที่น้อยเกินไปจาก โดยเฉพาะการช่วยเหลือสภาพคล่องระหว่างวิกฤติ แม้จะมีซอฟต์โลน แต่ก็กลายเป็นแหล่งทุนที่ SME เข้าไม่ถึง ทำให้เกิดการฟื้นฟูจากโควิดที่ไม่เท่าเทียมกัน กลายเป็นหลุมที่ลึกมากในระบบเศรษฐกิจไทย
จากที่ SME ไทยก่อนโควิดเคยมีสัดส่วนอยู่ที่ 35.3% ของจีดีพี ปัจจุบันเหลือเพียง 34.9% ซึ่งแม้จะดูไม่มาก แต่ก็นับเป็นมูลค่าที่หายไปถึง 1.6 แสนล้านบาท จากระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย
ที่ผ่านมาประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับ SME น้อยเกินไปจริงๆ โดยเฉพาะเมื่อดูจากสัดส่วนงบประมาณ ที่ในปีล่าสุดมีอยู่เพียง 2.7 พันล้านบาท คิดเป็นเพียง 0.09% ของงบประมาณทั้งประเทศเท่านั้น จากสัดส่วนของ SME ต่อจีดีพีที่มากถึง 35% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการไม่เห็นความสำคัญของ SME
งบซื้อเรือดำน้ำ 3 หมื่นล้านบาท ที่ไม่รู้จะเอาไปรบกับใคร เทียบกับงบ SME 2.7 พันล้านบาท ก็ยิ่งเห็นได้ชัดเจน เทียบกับสิงคโปร์ที่ให้งบ SME 5 หมื่นล้านบาท หรือจะซอฟต์โลนเพื่อช่วยเหลือจากโควิดที่ผ่านมาก็ไม่ซอฟต์อย่างชื่อ เพราะเต็มไปด้วยเงื่อนไขที่ทำให้ SME ส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าถึงได้
ไม่ว่าเราจะเปรียบเทียบกับตัวเองหรือเปรียบเทียบกับต่างประเทศ ก็เห็นได้ชัดเจน ว่าเราให้ความสำคัญกับ SME น้อยเกินไป
สำหรับนโยบาย SME ของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งปีหน้า พิธาระบุว่าประกอบด้วย “5 ต.” คือ
(1) “แต้มต่อ” ให้ SME ผ่าน “หวย SME ” หรือเมื่อประชาชนซื้อสินค้าจาก SME ครบ 500 บาท ผ่านแอปพลิเคชั่นของรัฐ เช่น เป๋าตัง สามารถแลกสลากกินแบ่งได้ 1 ใบ สร้างแรงจูงใจให้ประชาชนซื้อสินค้า SME มากกว่านายทุนใหญ่
(2) “เติมทุน” ให้เงินทุน SME ตั้งตัวรายละ 1 แสนบาท โดยไม่ต้องใช้หลักประกัน 2 แสนรายต่อปี
(3) “ตัดต้นทุน (Cost)” หรือการลดรายจ่ายให้ SME ซึ่งจะเดินไปพร้อมกับนโยบายค่าแรง 450 บาทของพรรคก้าวไกล โดยให้ SME สามารถนำค่าแรงพนักงานไปหักภาษีได้สองเท่า และรัฐจะช่วยสนับสนุนเงินกองทุนประกันสังคมสำหรับพนักงานในธุรกิจ SME ในช่วงสองปีแรก
(4) “เติมตลาด” ออกกฎกำหนดให้ต้องมีสัดส่วนสินค้า SME ในชั้นวางของห้างค้าปลีก เพื่อให้สินค้า SME เข้าถึงตลาดได้มากขึ้น
(5) “ตั้งสภา SME ” ให้การรวมตัวของ SME มีพลังต่อรองมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการที่ส่งเสียงไปถึงรัฐบาลได้มักจะมีเพียงสภาอุตสาหกรรมและสภาหอการค้าไทย ส่วน SME เพิ่งจะได้มามีบทบาทเมื่อไม่กี่ปีมานี้เองเท่านั้น
และที่สำคัญ คือสิ่งที่จะเป็นนโยบายของพรรคก้าวไกลในการลดขนาดรัฐราชการ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการยกเลิกกฎหมายที่เป็นอุปสรรคและสร้างความยากลำบากในการทำธุรกิจของ SME ลงถึง 50% ของทั้งหมด รวมทั้งการมีหลักประกันให้ใบอนุญาตต้องได้รับการพิจารณาภายใน 15 วันด้วย
เรายังต้องทำอีกหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็น การลดกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจ การทลายการผูกขาดของนายทุนใหญ่ เช่น พ.ร.บ. สุราก้าวหน้า แก้เงื่อนไขเงินกู้ที่เต็มไปด้วยอุปสรรคที่ทำให้เข้าไม่ถึงทุน เพิ่มงบส่งเสริม SME สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างระบบนิเวศที่ทำให้ทุกคนมีอนาคต
สื่ออิเล็กทรอนิกส์ของพรรคก้าวไกลนี้ ได้รับการอุดหนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ปี พ.ศ. 2565
ผลิตโดย บริษัท สเปกเตอร์ ซี จำกัด จำนวนที่ผลิต 1 ชิ้น งบประมาณ 5,000 บาท ผลิตวันที่ 17 ธันวาคม 2565
