‘พิธา’ ลงพื้นที่ฉะเชิงเทรา พบประชาชนร้องปัญหาที่ค้าขายตลาดเคหะบ้านโพธิ์ ชาวชุมชนชื่นชม ‘จิรัฏฐ์’ เป็น ส.ส. ทำงานรวดเร็ว พาประชาชนเข้ารัฐสภา ประสานแก้ปัญหา เป็นเรื่องที่ไม่เคยเจอมาก่อน ตอกย้ำก้าวไกล งานสภาเด่น งานพื้นที่ดี ด้าน ‘ครูธัญ’ ชวนประชาชนส่งเสียงบอกผู้แทน ให้โหวตผ่าน ‘สมรสเท่าเทียม’ เพื่อคู่รักทุกคู่ในประเทศนี้ มีสิทธิ-ศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน
เมื่อวานนี้ (17 ธันวาคม) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยช่วงเช้าได้ร่วมกิจกรรม ‘พายเรือเพื่อปางปะกง’ จากนั้นลงพื้นที่การเคหะบ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ร่วมกับ จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่การเคหะบ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อรับฟังปัญหาของประชาชนและพูดถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาของพรรคก้าวไกล
ก่อนหน้านี้ ประชาชนที่อาศัยในการเคหะบ้านโพธิ์ประสบปัญหาการเช่าพื้นที่เพื่อค้าขาย เนื่องจากตลาดนัดเคหะบ้านโพธิ์จะมีการประมูลใหม่ ทั้งที่ประชาชนใช้พื้นที่ค้าขายมานาน และรายได้จากการเช่า กรรมการชุมชนก็นำมาหมุนเวียนเพื่อดูแลพื้นที่ส่วนกลางของชุมชน หากเปลี่ยนผู้ประมูล อาจทำให้ประชาชนเดือดร้อนราว 400 คน
เมื่อประชาชนเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงร้องเรียนไปหลายหน่วยงานแต่ก็ถูกมองข้าม จนกระทั่งร้องเรียนไปยัง ส.ส.จิรัฏฐ์ ได้นำเรื่องเข้าคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างรวดเร็ว ทำให้การเคหะฯ ประกาศเลื่อนการประมูลออกไปเพื่อหาทางออกร่วมกัน
ในช่วงหนึ่งระหว่างลงพื้นที่ ประชาชนในพื้นที่เคหะบ้านโพธิ์ ได้สะท้อนความรู้สึกว่าเป็นโอกาสดีที่ได้พบทั้งหัวหน้าพรรคและ ส.ส. คิดว่าเป็นเรื่องยากที่พรรคการเมืองใดจะลงมาดูแลประชาชนแบบนี้ ทำให้อุ่นใจว่าเมื่อเดือดร้อนยังหาที่พึ่งได้ เช่นความเดือดร้อนเรื่องตลาดการเคหะฯ ที่จิรัฏฐ์รับเรื่องร้องเรียนและดำเนินการแก้ไขอย่างรวดเร็ว พาประชาชนเข้าห้องกรรมาธิการที่รัฐสภา เป็นเรื่องที่ไม่เคยเจอมาก่อน รวมถึงขอชื่นชมว่าพรรคก้าวไกลมีนโยบายที่ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สังคม เชื่อว่านโยบายแต่ละด้านจะทำให้ประเทศไทยทันสมัยมากขึ้น ไม่ติดอยู่กับระบบเดิมๆ ที่เป็นปัญหา
พิธากล่าวว่า การทำงานของจิรัฏฐ์ซึ่งเป็น ส.ส. ในพื้นที่ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว ว่าแม้พรรคก้าวไกลถูกมองว่าเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ แต่เราทำงานโดยสนใจชีวิตความเป็นอยู่ของคนทุกรุ่น ส.ส. ของเราจริงจังกับการทำงานทั้งในสภาและในพื้นที่ เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนได้เห็น ว่าการมีผู้แทนที่ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน มีมูลค่าที่สูงกว่าเงินหลักพันหลักร้อยที่อาจมีคนหยิบยื่นให้ในช่วงเลือกตั้ง และที่พรรคก้าวไกลกล้าชนกับกลุ่มทุน ก็เพราะเราเป็นพรรคที่อยู่ได้จากการสนับสนุนของประชาชน
พร้อมกันนี้ พิธายังแนะนำนโยบายของพรรคก้าวไกล ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ ไม่ว่าจะเป็น ชุดนโยบาย ‘สวัสดิการไทยก้าวหน้า’ เช่น เงินผู้สูงอายุ 3,000 บาทถ้วนหน้า เบี้ยเด็กเล็ก 1,200 บาทต่อเดือน รวมถึงนโยบายด้านแรงงานและการช่วยเหลือผู้ประกอบการ เช่น ค่าแรง 450 บาททันทีในปี 2566 และให้ SMEs นำค่าแรงมาหักค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ 2 เท่า เป็นต้น
นอกจากนี้ พิธายังกล่าวถึงการผลักดันร่างกฎหมายของพรรคก้าวไกลในช่วงปลายของสภาชุดปัจจุบันว่า ตอนนี้ร่างกฎหมายสำคัญของพรรคก้าวไกลที่อยู่ระหว่างการพิจารณาวาระ 2 คือ ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ซึ่งเป็นกฎหมายที่จะทำให้คู่รักทุกคู่ได้รับสิทธิของการเป็นคู่สมรส อย่างเท่าเทียมกัน สามารถสร้างครอบครัวร่วมกันโดยไม่มีอุปสรรคหรือข้อจำกัดเรื่องเพศเหมือนในอดีต เช่น สิทธิรับมรดก สิทธิรักษาพยาบาล หรือการทำธุรกิจร่วมกัน
พิธาหวังว่ากฎหมายสมรสเท่าเทียมจะเกิดขึ้นในประเทศไทย เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามในกฎหมาย The Respect for Marriage Act (รัฐบัญญัติความเคารพต่อการสมรส) ที่ทำให้การสมรสของคนเพศเดียวกันได้รับการรับรอง โดยก่อนหน้านี้ ได้พบโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค (Robert F. Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ซึ่งมาเยือนพรรคก้าวไกล ได้หารือกันหลายประเด็น และได้แสดงความยินดีกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับความสำเร็จของกฎหมายดังกล่าว เชื่อว่าอีกไม่นานประเทศไทยก็จะมีกฎหมายสมรสเท่าเทียมซึ่งเป็นกฎหมายที่ทำให้คนไทยเท่าเทียมกันและประเทศไทยเท่าทันโลก และขอให้ประชาชนติดตามการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ในวาระที่ 3 คาดว่าจะเป็นช่วงปลายปีนี้หรือช่วงต้นปี 2566
ด้าน ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม กล่าวว่า ขอให้ประชาชนช่วยกันติดตามการทำงานของสภาผู้แทนราษฎร และช่วยกันส่งเสียงบอกให้ผู้แทนของทุกคน โหวตผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมเพื่อทำให้สิทธิของคู่รักทุกคู่ในประเทศนี้เท่าเทียมกัน