free geoip

ครูที่มีอคติทางเพศ ต้องทำความเข้าใจ ไม่ใช่ล่าแม่มด


กรณีครูพูดถึง พล.อ.เปรม ในชั้นเรียน ต้องทำความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศ ไม่ใช่ล่าแม่มดเพื่อกำจัดคนคิดต่าง

จากกรณีที่มีครูท่านหนึ่งพูดถึง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ในชั้นเรียนในฐานะตัวอย่างเมื่อพูดถึงการปกครองในระบอบอำนาจนิยมและมีการพาดพิงถึงประเด็นเพศวิถี พรรคก้าวไกลเห็นว่าสิ่งที่ครูท่านนั้นตั้งข้อสังเกตทั้งเรื่องเพศและเรื่องข้อเท็จจริง ต้องพูดด้วยท่าทีที่ระมัดระวังและตระหนักถึงการเคารพความหลากหลายทางเพศมากกว่านี้ แต่เราไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของนายกรัฐมนตรี การกระทำของผู้ช่วยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และการล่าแม่มดโดยขบวนการจัดตั้งของสื่อฝ่ายอนุรักษ์นิยม ที่กดดันให้มีการลงโทษครูท่านนั้นอย่างไม่เป็นธรรม

จริงอยู่ว่าการพูดถึง พล.อ.เปรม ในลักษณะมีอคติทางเพศเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง แต่การแก้ปัญหาของกรณีนี้ควรเป็นการตักเตือน และอบรมทัศนคติครูเรื่องการเข้าใจความหลากหลายทางเพศ ไม่ใช่ดำเนินการทางนิติสงคราม ทั้งทางกฎหมายและทางวินัย รวมทั้งใช้การกดดันทางสังคมอย่างการล่าแม่มด

การที่มวลชนและสื่ออนุรักษ์นิยม หยิบยกกรณีนี้ขึ้นมาล่าแม่มดครูท่านนี้ เป็นเพราะต้องการให้ชั้นเรียนตระหนักถึงความเข้าใจความหลากหลายทางเพศ และตระหนักถึงปัญหาการบูลลี่ หรือเป็นไปเพื่อปิดปากทุกคนที่เห็นต่างจากตนเองด้วยการกดดันให้ใช้กลไกอำนาจรัฐเข้าเล่นงานกันแน่

ถ้าผู้ที่ออกมาโจมตีครูท่านนี้เห็นความสำคัญของการพิสูจน์ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ สิ่งที่เราควรส่งเสริมคือการเปิดให้ห้องเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัย มีการถกเถียงแลกเปลี่ยนข้อมูลกันทุกด้านและหักล้างกันด้วยเหตุผล ไม่ใช่การใช้อำนาจปิดปาก สร้างความกลัว และสถาปนาความจริงเพียงด้านเดียวในแบบที่ผู้มีอำนาจต้องการให้เชื่อ

การที่ พล.อ.ประยุทธ์ สั่งการให้มีการดำเนินคดีด้วยเหตุผลปลุกปั่นสร้างความแตกแยก เราอยากถามกลับไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ ว่าใครกันแน่ที่กำลังสร้างความแตกแยก ระหว่างครูคนหนึ่งที่สอนในชั้นเรียนกับสื่อและมวลชนที่ทำการล่าแม่มด เคลื่อนไหวกดดันให้ประเด็นนี้กลายเป็นประเด็นทางการเมือง

เราเชื่อว่าการทำให้การศึกษาไทยมีอนาคต ต้องทำความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศ ควบคู่กับการสอนประวัติศาสตร์ที่สร้างการถกเถียงไม่ใช่รับข้อมูลข้างเดียว แต่การล่าแม่มด กำจัดผู้เห็นต่างที่มีความเชื่อต่างจากตัวเอง และใช้อำนาจเข้าข่มขู่คุกคามมากกว่าความเป็นจริง สิ่งเหล่านี้จะยิ่งปลูกฝังวัฒนธรรมอำนาจนิยมในโรงเรียน และจะยิ่งทำให้การศึกษาของชาติล้าหลัง ไม่ทันโลก

ถ้านายกรัฐมนตรีและผู้ที่มีอำนาจในประเทศนี้ ให้ความสำคัญกับการปฏิรูปการศึกษาด้านอื่นๆ ในระดับเดียวกันกับการล่าแม่มดครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น

  • สิทธิเสรีภาพในสถานศึกษา
  • การต่อต้านการบูลลี่รังแกกัน
  • ทำความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศ
  • ทำความเข้าใจเรื่องการเคารพสิทธิเหนือชีวิตและร่างกายของนักเรียน
  • ปฏิรูปชั้นเรียนและหลักสูตรให้ก้าวหน้าสร้างสรรค์ มีเสรีภาพในการพูดและปลอดภัย
  • ลดภาระงานที่ไม่จำเป็นของครูผู้สอน
  • คิดหาวิธีการเพิ่มทรัพยากรสนับสนุนเด็กระดับประถมศึกษาและปฐมวัย
  • เปลี่ยนวิธีการประเมินวัดผลการศึกษา


หากทำเช่นนี้ได้ เราเชื่อว่าการศึกษาไทยจะต้องพัฒนามากกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้อย่างแน่นอน



สื่ออิเล็กทรอนิกส์ของพรรคก้าวไกลนี้ ได้รับการอุดหนุนงบประมาณจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ปี พ.ศ. 2565
ผลิตโดย บริษัท สเปกเตอร์ ซี จำกัด จำนวนที่ผลิต 1 ชิ้น งบประมาณ 3,000 บาท ผลิตวันที่ 23 ธันวาคม 2565

Login

จากคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคก้าวไกล 7 สิงหาคม 2567 เราขอยุติการรับสมัครสมาชิกพรรคและการรับบริจาค ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้อดีต ส.ส. พรรคก้าวไกลทั้งหมดได้ย้ายไปยังพรรคประชาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กรุณาติดต่อที่ เว็บไซต์พรรคประชาชน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า