ภายหลังจากที่ วันที่ 5 ม.ค. 66 มานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ปีกชาติพันธุ์ ได้ตั้งกระทู้ถาม นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ปัญหาค่าไฟแพงและได้ตั้งคำถามว่า
“จากการตรวจสอบมิเตอร์ในประเทศไทยมีประมาณ 50 ล้านมิเตอร์ คิดเป็นเงินจำนวน 1,911 ล้านบาทต่อเดือน ที่ประชาชนจะต้องจ่าย ตนถามว่าค่าบริการรายเดือนดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร จะจัดการไม่ให้มีได้อย่างไร เพราะไม่มีความเหมาะสม ไม่มีความเป็นธรรมกับประชาชน และเป็นการเก็บค่าบริการเกินควร”
ล่าสุด รายงานข่าวจากกระทรวงพลังงาน ระบุว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ค่าบริการรายเดือนสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ารายเล็ก กิจการขนาดเล็ก และกิจการสูบน้ำเพื่อการเกษตรมีผลบังคับใช้แล้ว โดยจะได้รับส่วนลดค่าบริการรายเดือนในอัตราใหม่มีผลในรอบบิลเดือน ม.ค. 66 เป็นต้นไป
สำหรับผู้ได้รับสิทธิ์ดังกล่าวครอบคลุมผู้ใช้ไฟฟ้า 3 ประเภท ได้แก่
(1) ประเภทบ้านอยู่อาศัย ใช้มากกว่า 150 หน่วย 38.22 บาท/เดือน เป็น 24.62 บาท/เดือน ประเภทบ้านอยู่อาศัย แรงดันต่ำ อัตรา TOU 38.22 บาท/เดือน เป็น 24.62 บาท/เดือน
(2) กิจการขนาดเล็ก แรงดันต่ำ 46.16 บาท/เดือน เป็น 33.29 บาท/เดือน
(3) กิจการสูบน้ำเพื่อการเกษตร อัตรา TOU 228.17 บาท/เดือน เป็น 204.07 บาท/เดือน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้กระทรวงพลังงานจะมีการผ่อนปรนค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นบางส่วนแล้ว แต่พรรคก้าวไกลเห็นว่ายังไม่เพียงพอ เราจำเป็นต้องมีการปรับโครงสร้างการจัดสรรทรัพยากร แหล่งแก๊สธรรมชาติราคาถูกกลุ่มทุนในปัจจุบัน ให้เปลี่ยนเป็นการจัดสรรระหว่างกลุ่มทุนและประชาชนอย่างยุติธรรม เพื่อลดค่าครองชีพประชาชน ลดต้นทุนค่าไฟฟ้าของภาคธุรกิจ สร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ