ในระหว่างที่การเมืองในเมืองหลวงกำลังร้อนแรง วิโรจน์ ลักขณาอดิศร จากพรรคก้าวไกล ตอนนี้กำลังซุ่มลงพื้นที่ทั่วประเทศอย่างหนัก เพื่อติวเข้มว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในการขายนโยบายพรรคก้าวไกล
ระหว่างการเดินพื้นที่ตลาด วิโรจน์พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัครพรรคก้าวไกล จ.ศรีสะเกษ ; พรสิทธิ์ รักษาทรัพย์ เขต 5, ศราวุธ ศรีวัง เขต 7 และ พงษ์เดช เดชกล้า เขต 9 ได้มีประชาชน ที่เป็นพ่อค้าแม่ค้ามาร้องเรียนกับพรรคก้าวไกลว่า “ตอนนี้ราคาหอมแดงกำลังตกต่ำลงอย่างมาก พี่น้องเกษตรกรชาวศรีสะเกษที่ปลูกหอมแดงกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะมีหอมแขกจากเมียนมาทะลักเข้ามาในตลาด กดราคาสินค้าเกษตรบ้านเรา”
ปัญหานี้ไม่ใช่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะไม่รู้ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี แล้วรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้เคยลงพื้นที่ทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับประชาชนในการแก้ปัญหาแล้ว แต่เวลาผ่านไปกลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ซ้ำร้ายราคาหอมแดงมีแต่ตกลงเรื่อยๆ
“กรณีหอมแดงไม่ใช่สินค้าเกษตรแรกที่โดนสินค้าเกษตรนำเข้าจากต่างชาติเข้ามากดราคา ถ้าจำกันได้ก่อนหน้านี้มีทั้งกะหล่ำผักกาดจากจีน ที่เข้ามากดราคาผักของเกษตรกรในภาคเหนือ แล้วมะพร้าวนำเข้าที่เข้ามากดราคาเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพการทำงานของรัฐมนตรีพาณิชย์ ล้มเหลวในการดูแลเกษตรกรโดยสิ้นเชิง”
วิโรจน์กล่าว
สิ่งที่พรรคก้าวไกลต้องการทำถ้ามีโอกาสได้เป็นรัฐบาล คือนอกจากการควบคุมดูแลไม่ให้มีสินค้าลักลอบนำเข้ามาตีตลาดเกษตรกรไทยแล้ว สิ่งที่เกษตรกรสะท้อนว่าต้องการมากๆ คือการวิจัยพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์
“หอมแดงและหอมแขกมีรสชาตและกลิ่นที่ต่างกัน หอมแขกมีลูกใหญ่แต่รสชาติและกลิ่นหอมเท่าหอมแดงไม่ได้ พี่น้องประชาชนฝากถามมาว่า ทำไมรัฐบาลถึงไม่วิจัยปรับปรุงสายพันธุ์ ให้หอมแดงของไทย ที่มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์กว่าลูกใหญ่เท่ากับหอมแขกจากเมียนมาร์ ให้มีลูกผลที่ใหญ่ขึ้น ทำให้พืชผักของไทยแข่งขันเป็นที่หนึ่งได้ไม่ต้องกลัวพืชผักจากชาติไหนมาตีตลาด”