สุรเชษฐ์ ดักคอ รฟม.-รัฐบาล หลังเตรียมเดินหน้าสัญญาเดินรถไฟฟ้าสายสีส้มกับ บีอีเอ็ม ทั้งที่ยังไม่เคลียร์เรื่องการเปลี่ยนเกณฑ์การประมูลกลางอากาศในปี 63 จนได้ผู้ชนะรายใหม่พร้อมส่วนต่าง 68,613 ล้านบาท จี้ต้องตอบสังคมให้กระจ่างก่อนเดินหน้าต่อ ระวังทุกคนที่เกี่ยวกับการลงนามจะเดือดร้อนยาวถึงขั้นติดคุก
สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ให้ความเห็นต่อกรณีรายงานข่าวล่าสุด ที่บอร์ดการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เตรียมเดินหน้าพิจารณาร่างสัญญาเดินรถไฟฟ้าสายสีส้ม (บางขุนนนท์ – มีนบุรี) กับ บริษัท บีอีเอ็ม ให้แล้วเสร็จทันเดือนมกราคมนี้ เพื่อขอให้กระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรีลงนามอนุมัติให้เร็วที่สุด
👉 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มนี้ ความจริงควรจะสร้างได้เร็วกว่านี้ถึง 2 ปี หากไม่มีการเปลี่ยนเกณฑ์ประมูลกลางอากาศในการประมูลปี 2563 ซึ่งนอกจากจะทำให้การก่อสร้างเป็นไปอย่างล่าช้าแล้ว ยังทำให้เกิดข้อสงสัยว่าจะมีการแสวงหาผลประโยชน์เกิดขึ้น จากส่วนต่างที่แพงขึ้นหลังเปลี่ยนเกณฑ์การประมูลจนได้ผู้ชนะรายใหม่ เป็นมูลค่าสูงถึง 68,613 ล้านบาท
👉 พรรคก้าวไกลเคยทำหนังสือแจ้งไปยังรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลแล้ว ถือว่าได้ทราบความไม่ชอบมาพากลของส่วนต่างที่เกิดขึ้นแล้ว และควรชี้แจงข้อเท็จจริงใน 7 ประเด็นสำคัญให้กระจ่างสู่สังคมก่อนการอนุมัติ
ไม่ว่าจะเป็น
(1) การเปลี่ยนกฎเกณฑ์การประมูลกลางอากาศ
(2) การยกเลิกการประมูลครั้งที่แล้ว โดยที่ศาลปกครองกลางมีคำพิพากษาว่าการยกเลิกการประมูลดังกล่าวมิชอบด้วยกฎหมาย
(3) การกีดกันการแข่งขันโดยไม่ให้ BTS เข้าประมูลรอบใหม่
(4) คณะกรรมการคัดเลือกให้ ITD มาเป็นคู่เทียบ ทั้งที่ติดปัญหาด้านคุณสมบัติอยู่ได้อย่างไร
(5) เหตุใดจึงคิดราคากลาง 91,983 ล้านบาทโดยอนุมานว่าส่วนแบ่งรายได้ในอนาคตเป็นศูนย์
(6) คณะกรรมการคัดเลือก ได้มีความพยายามในการรักษาผลประโยชน์ให้กับรัฐในการเจรจาต่อรองอย่างไรบ้างหรือไม่?
(7) เหตุใดในการประมูลรอบแรก หาก BTS ชนะ รัฐจะอุดหนุนเพียง 9,675 ล้านบาท แต่ในการประมูลรอบสองซึ่ง BEM ชนะรัฐจะต้องอุดหนุนมากถึง 78,288 ล้านบาท จนเกิดส่วนต่างขึ้นถึง 68,613 ล้านบาท
“ผมอยากให้รัฐมนตรีทุกท่านได้ใช้สามัญสำนึกในการรักษาผลประโยชน์ให้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ ถ้าเดินหน้าโครงการไปแบบนี้ สุดท้ายผลที่จะเกิดขึ้นคือคนอนุมัติรวย นายทุนยิ้ม ประชาชนจ่าย และวันหนึ่งท่านเองที่จะต้องเดือดร้อนจากคดีทุจริต ผมอยากให้ท่านทั้งหลายคิดให้ดีๆ ก่อนจะตัดสินใจอนุมัติสิ่งที่ยังเต็มไปด้วยข้อกล่าวหาและข้อสงสัยมากมายเช่นนี้”
สุรเชษฐ์กล่าว