พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งกรุงเทพฯ เขต 1 ก้าวไกลส่ง ‘ปารเมศ’ ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายจีน-ไทย เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในพื้นที่กระแสก้าวไกลมาแรงชนะใจคนกรุงเทพชั้นในได้
ภายหลังจากที่พรรคเพื่อไทยเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 1 (ป้อมปราบศัตรูพ่าย พระนคร สัมพันธวงศ์) อย่างเป็นทางการ ทำให้ในสมรภูมิการเลือกตั้งกรุงเทพฯ เขต 1 มีว่าที่ผู้สมัครจากพรรคการเมืองหลักที่ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งครบทั้ง 3 พรรค
พรรคก้าวไกลเราพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งในสมรภูมิกรุงเทพมหานครทุกเขต โดยเฉพาะเขต 1 ที่เรามั่นใจว่า ปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ ลูกไทยเชื้อสายจีนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญกฎหมายจีน-ไทย และประธานคณะทำงานวิเทศสัมพันธ์ไทย-จีน ของพรรคก้าวไกล จะสู้ศึกในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้
ปารเมศ เป็นอดีตนักเรียนนอกในประเทศจีน จบนิติศาสตร์ภาคภาษาจีนจากมหาวิทยาลัยฟู่ตั้น นครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 3 ของสาธารณรัฐประชาชนจีน มีอากงเป็นคนเยาวราช อยู่ตรอกโรงหมู เป็นลูกหลานคนจีน คนซัวเถา แซ่เตีย รุ่น 3 ปัจจุบันเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายไทย-จีน ทำงานให้คำปรึกษาคนจีนที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ทำให้เรามั่นใจว่าภูมิหลังที่มีความเชี่ยวชาญในการติดต่อสัมพันธ์กับคนจีน จะช่วยผลักดันการพัฒนากับคนในพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นในและคนไทยทั้งประเทศ
“แรงบันดาลใจของผมในการทำงานการเมือง มาจากการเห็นประเทศจีนพัฒนาอย่างอย่างก้าวกระโดดตลอดเวลาที่ผมไปเรียน จากประเทศที่โดนดูถูกว่าสินค้าจีนแดง กลายเป็นประเทศที่ไปดวงจันทร์ เป็นผู้นำด้านเศรษฐกิจและนวัตกรรม”
“แต่เมื่อกลับมามองประเทศไทย เรากลับไม่มีการพัฒนาเลยตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เมื่อก่อนคนจีนบอกว่าไทยเคยเป็น “ซื่อเสี่ยวหลง” หรือ “มังกร 4 ตัว” เป็นประเทศที่พัฒนามากในสายตาคนจีน ประเทศไทยเคยมีรถไฟฟ้า มีตึกสูง แต่ปัจจุบันเราไม่ใช่เป็นหางมังกรด้วยซ้ำ”
“นี่คือเหตุผลที่ผมเลือกเข้ามาทำงานการเมืองร่วมกับพรรคก้าวไกล”
ในส่วนของกระแสตอบรับของพรรคก้าวไกล ปารเมศกล่าวว่าสมัยอนาคตใหม่เป็นพรรคอนาคตใหม่ เราโดนขับไล่ โดนด่า แต่สมัยนี้ผมลงพื้นที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก และยิ่งตนเป็นลูกหลานคนจีน เข้าหา นอบน้อมทำให้คนในพื้นที่ตอบรับดีมาก ประชาชนชอบ ส.ส.เจี๊ยบ หัวหน้าพรรคพิธา พรรคก้าวไกลเป็นที่ยอมรับและเป็นที่รู้จัก
“มีบางพื้นที่มีคนที่เห็นเห็นต่างทางการเยอะ เช่น ป้อมปราบศัตรูพ่าย ที่มีรากฐานจากพรรคประชาธิปัตย์ทำงานมานาน แต่กลยุทธ์เราก็ยังเดินเข้าไปหา เข้าไปแนะนำตัวเพราะ ผมเชื่อว่าคะแนนเสียงของประชาชนทุกคนมีความสำคัญเท่าเทียมกัน”
สำหรับสิ่งที่ต้องการผลักดันถ้าได้เป็น ส.ส. ปารเมศการเข้ามาของคนจีน สร้างทั้งโอกาสและความท้าทายให้กับประเทศไทย ตนจึงอยากส่งเสริมให้พื้นที่กรุงเทพ เขต 1 และประเทศไทยให้ความสนใจกับประเทศจีน เพราะคนจีนที 1,400 ล้านคน มีคนจีนอยู่ทุกที่และมีกำลังซื้อสูงมาก การที่เราเรียนรู้ภาษาจีน และทำการค้าขายกับคนจีนมากขึ้นจะเป็นโอกาสดีถ้าประเทศไทยสามารถจับกระแสนี้ได้
“แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องทำคู่กันคือ เราต้องมีการตรวจสอบคนจีนที่เข้ามาทำผิดกฎหมายเข้มข้นขึ้น มิใช่ปล่อยให้คนจีนเข้ามาทำธุรกิจที่ผิดกฎหมาย และทำธุรกิจโดยใช้ช่องทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีการจ่ายภาษี ซึ่งจะกระทบกับผู้ประกอบการขนาดเล็กอย่างเช่น พ่อค้าแม่ค้าในตลาดสำเพ็ง”