รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นกรณี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวระหว่างการเปิดตัวนโยบายของพรรคพลังประชารัฐเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้งเมื่อวานนี้ (17 มกราคม) ว่าพร้อมจับมือกับทุกฝ่ายเพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง
รังสิมันต์ กล่าวว่า ทั้ง พลเอกประวิตร และ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีบทบาทสำคัญในการทำรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจ ทำให้ประเทศไทยต้องพบวิกฤตต่างๆ จนถึงปัจจุบัน ดังนั้น พรรคก้าวไกลยืนยันว่าการที่เราจะแก้ไขวิกฤตทางการเมืองของประเทศ หรือก้าวข้ามความขัดแย้งได้ จำเป็นต้องทลายมรดกของ คสช. และผลพวงของการรัฐประหารเสียก่อน ไม่เช่นนั้น ประเทศไทยไม่สามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน
สิ่งที่เราเห็นคือ กลุ่ม 3 ป. มีบทบาทสำคัญในการทำลายหลักการสิทธิมนุษยชน ทำให้ตนและคนอีกจำนวนมากถูกจับกุมดำเนินคดี ถูกปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีการตั้งพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมาเป็นทางเลือก เพื่อต่อสู้ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศ และลบล้างผลพวงการรัฐประหารทั้งหมด
“หลังรัฐประหาร 2557 มีคนจำนวนมากถูกตั้งข้อหาร้ายแรง ทั้งๆ ที่ความต้องการของพวกเขามีเพียงอย่างเดียวคือเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นและเป็นประชาธิปไตย ดังนั้น ที่พลเอกประวิตรอ้างว่าอยากจะสานสัมพันธ์หรือจับมือกับทุกฝ่าย มั่นใจว่าประชาชนไม่เห็นด้วย เพราะสิ่งที่ประชาชนต้องการในวันนี้คือการเปลี่ยนแปลง และพาประเทศไทยออกจากซากเดนของ คสช. ที่ทั้งพลเอกประยุทธ์และพลเอกประวิตรสร้างไว้”
รังสิมันต์กล่าว
พรรคอนาคตใหม่ คือพรรคการเมืองที่ตอบโต้กับความเลวร้ายที่คณะรัฐประหารสร้างขึ้น เมื่อเกิดการยุบพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกลก็สานต่อเจตนารมณ์ เรามีภารกิจเดียวกัน คือเราจะไม่ยอมให้คนอย่างพลเอกประยุทธ์ หรือพลเอกประวิตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อสานต่ออำนาจต่อไปแน่นอน