⚓️ ก้าวไกลห่วง ส.ส.รัฐบาลเล่นเกมการเมืองจนสภาล่ม ทำให้กฎหมายประมงไม่ได้พิจารณา หวั่น ถ้าไม่ผ่านสภาชุดนี้ต้องนับศูนย์ใหม่สมัยหน้า
ศักดินัย นุ่มหนู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ตราด พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่อประเด็นที่ร่างพระราชบัญญัติประมงแห่งชาติ พ.ศ. … ไม่ได้เข้ารับการพิจารณา เนื่องจากองค์ประชุมสภาไม่ครบ หรือ “สภาล่ม” โดยศักดินัยกล่าวว่า พี่น้องชาวประมงต่างรู้สึกเจ็บปวดที่กฎหมายประมงฉบับใหม่ที่เป็นความหวังของประชาชนในการปลดโซ่ตรวน พ.ร.ก.ประมงฉบับ คสช. จะต้องล่าช้าออกไปจากการเล่นเกมการเมืองกันในสภา
ศักดินัย กล่าวว่าร่าง พ.ร.บ.ประมง ที่กำลังจะเข้าสภา เป็นกฎหมายที่จะแก้ไข พ.ร.ก.ประมง พ.ศ. 2558 ที่ออกโดย คสช. ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีปัญหาอย่างมากในการบังคับใช้กับพี่น้องชาวประมง เพราะมีบทลงโทษที่รุนแรง เป็นการออกกฎหมายที่ชาวประมงไม่ได้มีส่วนร่วม และหลายเรื่องขัดกับวิถีชีวิตชาวประมง
“เนื่องจากกฎหมายไม่มีการกำหนดกระบวนการบังคับใช้กฎหมายในช่วงเปลี่ยนผ่าน ทำให้ชาวประมงหลายรายที่ทำผิดมากกว่า 90% ล้วนแต่เป็นเรื่องทางธุรการเอกสาร ส่วนที่ทำผิดต่อทรัพยากรจริงๆ มีเพียงจำนวนน้อยเท่านั้น และบทลงโทษที่รุนแรงมากทำให้ชาวประมงหลายรายต้องขายเรือมาต่อสู้คดี เราจึงต้องมีการแก้ไขกฎหมายและออกมาตรการในการบรรเทาผลกระทบที่เกิดกับพี่น้องชาวประมง ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาของชาวประมงเงียบมาโดยตลอด เพิ่งมีการถูกพูดถึงโดยพรรคการเมืองต่างๆ ในช่วงเวลาใกล้เลือกตั้งไม่นานมานี้”
ศักดินัยกล่าว
ศักดินัยกล่าวเพิ่มเติมว่า พระราชบัญญัติประมงฉบับนี้ ทุกพรรคการเมืองแทบจะเห็นพ้องต้องกันในแง่หลักการ แต่สาเหตุที่ร่าง พ.ร.บ.ประมง ไม่ได้รับการพิจารณาเนื่องจากสภาล่ม เป็นเพราะเกมการเมือง เนื่องจากมีการคุยกันว่าจะให้ร่างกฎหมายของคุณกันตวรรณ ตันเถียรเป็นร่างหลัก ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลอีกพรรคที่ขัดแย้งกันในเรื่องกฎหมายกัญชา เล่นเกมการเมือง ไม่เข้านับเป็นองค์ประชุม
“เป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างยิ่ง เพราะเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีการเสนอเรื่องด่วนกฎหมาย 3 ฉบับ ซึ่ง 3 พ.ร.บ.แรกผ่านฉลุย ในขณะที่ร่าง พ.ร.บ.ประมงซึ่งเป็นกฎหมายฉบับสุดท้ายที่รอการพิจารณา และกระทบกับชีวิตของพี่น้องชาวประมงสภากลับล่ม ผมไปลงพื้นที่ผมเห็นได้เลยว่าชาวประมงทั้งเสียใจ ทั้งคนด่า การเล่นเกมการเมืองในสภาที่เอาชีวิตประชาชนเป็นตัวประกัน”
ศักดินัยกล่าว
ทั้งนี้ ร่าง พ.ร.บ.ประมงที่พรรคก้าวไกลเสนอ มีสาระสำคัญ 4 เรื่อง คือ 1) ปรับลดอัตราโทษลงให้มีความสมเหตุสมผล 2) ยกเลิกกฎเกณฑ์ที่ไม่มีเหตุผลสร้างภาระโดยไม่จำเป็น 3) กระจายอำนาจการออกกฎควบคุมการทำประมงไปคณะกรรมการประมงจังหวัด และ 4) ทำให้การต่อทะเบียนเรือที่มีกระบวนการยุ่งยากระหว่างกรมประมงและกรมเจ้าท่าทำได้สะดวกขึ้น
สุดท้าย ศักดินัยฝากไปถึง ส.ส.รัฐบาล ว่าการเดินหน้าแก้กฎหมายประมงคือสิ่งสำคัญที่กระทบกับชีวิตและความเดือดร้อนของประชาชนไม่ควรจะเอามาเล่นเกมการเมือง การที่กฎหมายประมงต้องผ่านการเห็นชอบหลักการในสมัยประชุมสภาสมัยนี้มีความสำคัญมาก เพราะหากไม่มีการเห็นชอบ กฎหมายประมงทั้งหมดจะต้องเริ่มนับ 0 ใหม่หมด ในสภาชุดหน้า
ส่วนในอนาคตถ้าพรรคก้าวไกลได้มีโอกาสบริหารประเทศ ตนจะผลักดันให้เข้าไปมีการร่างกฎหมายและแก้กฎต่างๆ ขึ้นมาใหม่ทั้งหมดภายใต้หลักการมีส่วนร่วม การกระจายอำนาจ และผ่อนปรนบทลงโทษ
“นี่ไม่ใช่เรื่องการหาเสียง แต่คือความเดือดร้อนจำเป็นของประชาชนจริงๆ”
ศักดินัยกล่าวทิ้งท้าย