วันนี้ที่ห้าแยกหอนาฬิกาลำปาง พรรคก้าวไกลจัดเวทีปราศรัย เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ครบทุกเขตของสามจังหวัดภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดน่าน แพร่ และลำปาง พร้อมปราศรัยนโยบายและวิสัยทัศน์ของพรรคก้าวไกล นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย อภิชาติ ศิริสุนทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางขุนเทียน ร่วมเวที
📢 เริ่มต้นเวทีด้วยการแนะนำตัวและการแสดงวิสัยทัศน์ของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และการปราศรัยของแกนนำพรรคถึงนโยบายสำคัญของพรรคก้าวไกล ทั้งเรื่องรัฐสวัสดิการที่พรรคก้าวไกลมีนโยบายเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเป็น 3,000 บาทต่อเดือน เงินสนับสนุนเด็กแรกเกิดถึง 6 ขวบ 1,200 บาทต่อเดือน รวมถึงนโยบายการแก้ปัญหาที่ดินโดยยกระดับกรรมสิทธิ์ให้แก่ประชาชน และการปิดสวิตช์ 3 ป.
พิธา ปราศรัยปิดท้ายเวที ระบุว่าการปราศรัยในวันนี้ที่ห้าแยกหอนาฬิกา เป็นการบ่งบอกว่าทุกคนเท่าเทียมกันต่อหน้าเวลา เวลาเป็นสิ่งมีค่า เวลาเดินไปข้างหน้าโดยไม่รอใคร 4 ปีที่ผ่านมาเราเดินทางมาไกลเกินกว่าจะแพ้อีกต่อไป
พิธากล่าวว่า ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา การเดินทางของเราตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่จนมาเป็นพรรคก้าวไกลวันนี้ เราเดินทางเข้าใกล้ชัยชนะมากขึ้นทุกวัน ทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดแพร่โดยตรงอย่างสุราก้าวหน้า ที่จะเปลี่ยนโภคภัณฑ์เป็นผลิตภัณฑ์ เปลี่ยนสินค้าเกษตรเป็นโอกาสของเกษตรกร แม้จะเป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราแพ้ไปแค่ 2 คะแนนในสภาฯ แต่เราก็เข้าใกล้ความสำเร็จเข้าไปทุกที และนี่คือเรื่องที่จะทำได้สำเร็จแน่นอนหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าหากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล
สำหรับจังหวัดลำปาง 25% ของชาวลำปางเป็นผู้สูงอายุ เป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนประชากรสูงอายุมากที่สุดในประเทศไทย คุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุคือสิ่งที่เราพยายามผลักดันตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ โดยเฉพาะบำนาญประชาชน 3,000 บาท เราก็เกือบทำได้แล้วเหมือนกัน หาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ใช้อำนาจปัดตก ไม่ให้แม้แต่โอกาสนำเข้าสู่การพิจารณาในสภาฯ
ส่วนชาวน่าน เป็นจังหวัดที่มีพี่น้องชาติพันธุ์หลายเผ่าอยู่อาศัย ที่ผ่านมาต้องประสบปัญหากับการถูกบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรม ในรอบสภาฯ ที่กำลังจะหมดลงนี้ เราได้เห็นการขับเคลื่อนของพวกเขาในการยื่นกฎหมายถึง 6 ฉบับ แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะปัดตกไปถึง 4 ฉบับ แต่นี่คือเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและขอเพียงมีการผลักดันโดยผู้แทนในสภาฯ อีกเพียงเล็กน้อย เราก็จะมีเขตวัฒนธรรมพิเศษให้พี่น้องชาติพันธุ์อยู่ร่วมกับป่าได้แล้ว
ย้อนไป 4 ปีที่แล้ว เรื่องเหล่านี้ที่ตนพูดถึง อาจไม่มีใครจินตนาการมาก่อนว่าจะเกิดการผลักดันขึ้นในประเทศไทยที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เรามาไกลมากเกินกว่าจะแพ้แล้ว อีกนิดเดียวจะถึงเส้นชัยแล้ว เราจะปล่อยทิ้งตรงนี้ไม่ได้ ต้องขอแรงพี่น้องประชาชนช่วยกันผลักดันให้เราพรรคก้าวไกลได้เข้าสภาอีกครั้ง แก้ไขปัญหาให้ประชาชนให้ได้
ในรอบ 8 ปีที่ผ่านมา บวกกับอีก 2 ปีข้างหน้าที่กลุ่มการเมืองทหารจำแลงพยายามจะต่อยอดให้ประเทศไทยเข้าสู่ทศวรรษแห่งความสูญหายอีกครั้ง เราสูญเสียทั้งขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ที่เพิ่มขึ้นมีเพียงการทุจริตและยาเสพติด
สภาพการเมืองวันนี้ไม่ต่างอะไรกับสภาพที่เกิดขึ้นย้อนหลังไป 42 ปี ในวันที่ตนเกิด รัฐธรรมนูญที่เขียนปีนี้กับ 42 ปีที่แล้วมาจากคนเขียนคนเดียวกัน ยังเป็นการต่อสู้กันระหว่างการเมืองแบบลากตั้งหรือแบบเลือกตั้ง ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีวันนี้ ก็เป็นแนวคิดเดียวกันกับยุทธศาสตร์ชาติ 12 ปีในยุคนั้น หรือจะย้อนไป 130 ปีที่แล้วที่เป็นจุดกำเนิดของรัฐราชการสยาม ทุกวันนี้ประเทศไทยก็ยังคงบริหารราชการด้วยโครงสร้างแบบเดิมของเมื่อ 130 ปีที่แล้ว
📌 นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับการเมืองไทย คือการพาทุกคนย้อนหลังกลับไปสู่อดีต การเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญมาก ทางเลือกอนาคตของประเทศไทยอยู่ที่ประชาชนทุกคนแล้ว จะเอาการย้อนอดีตทวนเข็มนาฬิกา หรือกาก้าวไกลเพื่อให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม ให้ประชาชนทุกคนได้มีการเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต
“ความเสี่ยงของการเลือกตั้งครั้งนี้ คือการเลือกแบบเดิมแล้วคาดหวังจะได้สิ่งใหม่ การเลือกแบบเดิมไม่มีวันที่จะนำไปสู่สิ่งใหม่ได้ ความเสี่ยงที่น้อยที่สุดคือการเลือกพรรคก้าวไกล เอาทหารออกจากการเมือง กระจายอำนาจ หยุดทุนผูกขาด เพื่อให้ประเทศไทยดีกว่านี้ ทางเลือกอยู่ในมือของพี่น้องประชาชนแล้ว”
พิธากล่าว
สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกลในทั้ง 3 จังหวัดภาคเหนือที่มีการเปิดตัววันนี้ ประกอบด้วย :
📍 จังหวัดน่าน
เขต 1 เชาว์วิชญ์ อินน้อย ผู้ประกอบธุรกิจเสื้อผ้ามือสอง
เขต 2 อภิชาต จ่าแสน สมาชิกสมาคมกู้ชีพสายฟ้าวัดห้วยหลอด
เขต 3 เจริญ อภิภัทรโกศล ทนายความอิสระ อดีตคนทำงานด้านการแก้ไขปัญหาสถานภาพบุคคล และปัญหากรรมสิทธิที่ดิน
📍จังหวัดแพร่
เขต 1 ติรานนท์ เวียงธรรม ทนายความอิสระ
เขต 2 รฐรส เกิดสรรค์ ผู้ประกอบธุรกิจร้านค้าตลาดนัด
เขต 3 ภาวัช จันทร์ใส อดีตรองนายกเทศมนตรี ต.บ้านปิน อ.ลอง จ.แพร่
📍 จังหวัดลำปาง
เขต 1 ทิพา ปวีณาเสถียร อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ และผู้ประกอบธุรกิจโรงน้ำแข็ง
เขต 2 กฤตภพ สติดีนิติวงศ์ อดีตเกษตรกร และผู้ประกอบธุรกิจโรงงานผลิตเสื้อ
เขต 3 ชลธานี เชื้อน้อย อดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ จ.ลำปาง
เขต 4 รภัสสรณ์ นิยะโมสถ ผู้ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง