สมชาย ฝั่งชลจิตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายเป็นการทั่วไปตามมาตรา 152 กรณีที่ดินหมดอายุสัมปทาน โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ แต่รัฐไม่ดำเนินการอย่างจริงจังให้เอกชนคืนที่ดินเหล่านั้นกลับมา
โดยระบุว่า ตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีจากการรัฐประหารจนมาถึงวันนี้ มีเรื่องหนึ่งที่ยังไม่เห็นกล้าทำ คือเรื่องขอคืนที่ดินที่หมดอายุสัญญาอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ (ที่ดินสัมปทาน) ในพื้นที่ป่าสงวนภาคใต้ มาจากมือของนายทุน
สำหรับที่ดินสัมปทานนี้ เกิดขึ้นช่วงปี 2522-2531 และ 2535 – 2538 ที่ประเทศไม่เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ ไม่ต่างจากปัจจุบัน รัฐบาลแบบนี้ล้วนแต่เอื้อนายทุน มีการนำพื้นที่ป่ากว่า 200,000 ไร่ไปประเคนให้คนรวยเพียงไม่กี่ราย
ในพื้นที่ภาคใต้ หากใครเห็นสวนยางสวนปาล์มขนาดใหญ่ จำนวนมากไม่ใช่ของพี่น้องประชาชนคนธรรมดา แต่เป็นของนายทุนเอกชนรายใหญ่ เช่น พื้นที่กว่า 50,000 ไร่ตั้งแต่ถนนเอเชียจนถึงชายแดนพม่า
โดยที่ดินเหล่านี้มีอายุสัมปทานไม่เกิน 30 ปี ปัจจุบันส่วนใหญ่หมดอายุสัมปทานแล้ว แต่จนถึงวันนี้ นายทุนยังไม่คืนที่ดิน กลับยังดำเนินธุรกิจอยู่
ด้วยเหตุนี้ ประชาชนจึงมีการเรียกร้องตั้งแต่ช่วงปี 2545 ต่อมารัฐบาลมีมติเมื่อสิงหาคม 2546 ตกลงกับประชาชนว่าที่ดินที่หมดอายุสัญญาสัมปทานแล้ว จะไม่ให้ต่อสัญญา ส่วนที่ดินที่ยังไม่หมดสัญญา หากเอกชนมีการทำผิดเงื่อนไข (เช่น บุกรุกป่าเพิ่ม) ก็ให้เลิกสัญญาและนำที่ดินเหล่านั้นมาจัดสรรให้ประชาชน
แต่จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มทุนยังไม่ย้ายออก การจัดการพื้นที่ป่าที่หมดอายุสัมปทานโดยภาครัฐยังไม่เสร็จสิ้น แต่ประชาชนที่ออกมาเรียกร้องกลับเดือดร้อน บ้างถูกจับกุม บ้างถูกลอบสังหาร
จึงต้องถามว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมป่าไม้ ภายใต้ ‘วราวุธ ศิลปอาชา’ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทราบข้อมูลเหล่านี้หรือไม่?
ทำไมบริษัทนายทุนเหล่านั้นจึงอยู่ยงคงกระพันมาได้หลายรัฐบาล เป็นเพราะมีผู้ถือหุ้นหรือผู้บริหารจากตระกูลนักการเมือง หรือนักธุรกิจรายใหญ่ของประเทศหรือไม่ เช่น บมจ.ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม ในจังหวัดกระบี่ ครอบครองพื้นที่ 20,000 ไร่ หมดสัญญาตั้งแต่ปี 2556 แต่ปัจจุบันก็ยังทำสวนปาล์มอยู่
ที่ดินเหล่านี้ ทำรายได้เข้ากระเป๋านายทุนได้หลายพันล้านบาทต่อปี แต่รายได้ที่รัฐจัดเก็บได้จากค่าธรรมเนียมต่างๆ มีแค่ประมาณ 5 ล้านบาทเท่านั้น
“นายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ มีอำนาจ หากมีความกล้าหาญ สิ่งที่ท่านควรทำคือเอาป่าเหล่านั้น ที่หมดสัญญาหมดอายุแล้ว นำมาจัดสรรที่ดินให้ประชาชน แล้วผมจะปรบมือให้”