การปิดท้ายการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา ตัวตึงบางปะกง พรรคก้าวไกล ทวงถามความคืบหน้าการสังคายนาธุรกิจกองทัพ ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเคยให้สัญญา หลังเกิดเหตุกราดยิงโคราชเมื่อปี 2563 และนำไปสู่การลงนาม MOU ระหว่างกองทัพบกกับกรมธนารักษ์ เพื่อปรับปรุงและส่งคืนที่ดินราชพัสดุจำนวนมากที่กองทัพถือครองอยู่ ให้เป็นไปตามกฎหมาย
ก่อนอื่น ต้องปูพื้นว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีที่ดินราชพัสดุทั้งหมด 12.5 ล้านไร่ เกือบ 5 ล้านไร่เป็นของกองทัพบก ถูกใช้เป็นที่ตั้งสถานที่ราชการและสถานที่ฝึกรบ กองทัพเคยชี้แจงว่ามีที่ดินกว่า 1,000,000 ไร่ ถูกบุกรุกโดยประชาชนที่เข้ามาทำการเกษตร แต่ก็มีการเก็บค่าเช่ารายปีเข้ากระเป๋ากองทัพ ไม่ได้เข้ากรมธนารักษ์ ส่วนที่ดินที่เหลืออีกจำนวนมากนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ และเชิงธุรกิจ
👉 เห็นหลายคนชอบถาม “กองทัพมีไว้ทำไม” จิรัฏฐ์เลยต้องไล่เรียงให้ฟัง
- มีไว้ทำธุรกิจ เช่น ปั๊มน้ำมัน ทั่วประเทศอย่างน้อย 150 แห่งบริหารงานโดยกองทัพ เงินเข้ากองทัพ ผลประกอบการมากกว่า 60% มาจากการให้เอกชนเช่าพื้นที่ อีกทั้งยังมีร้านค้าสวัสดิการทหารบกบางแห่ง ที่มีสวัสดิการพิเศษสำหรับนายทหาร เช่น ฟรีดาวน์รถบิ๊กไบค์ ดอกเบี้ย 3% หักจากเงินเดือน ไม่จำเป็นต้องเช็กเครดิตบูโร เพียงแต่ผู้บังคับบัญชาเซ็นมาก็สามารถซื้อได้
- มีไว้สร้างบ้านขาย โดยเรื่องที่เป็นต้นเหตุของกราดยิงโคราช คือการที่กองทัพนำที่ดินราชพัสดุมาสร้างบ้านขาย จนเป็นที่น่าสงสัยถึงความเหมาะสมว่า หากหน่วยงานอื่นทำบ้าง จะได้หรือไม่
- มีไว้ทำโรงแรม มากกว่า 50 แห่งทั่วประเทศ ล่าสุดเช่น Serene Phla Resort and Restaurant ระดับ 4 ดาว ค่าที่พักกว่า 10,000 บาท หรือจะเป็นสถานที่ระดับ VVIP อย่างอาคารรับรองเกษะโกมล ที่อย่างน้อยต้องมีคนรู้จักยศนายพล จึงจะสามารถเข้าใช้บริการได้
- มีไว้ทำสนามกอล์ฟ เพราะตอนนี้มีมากถึง 74 สนาม คำนวณแล้ว 74 คูณ 18 หลุม ได้ 1,332 หลุม เกือบจะพอดีกับจำนวนนายพล
และอื่นๆ อีกมากมาย เช่น บาร์ลับ คาเฟ่ ให้บริการเบียร์คราฟต์ ร้านคาราโอเกะ โรงพิมพ์ บริการห้องเย็น ถ่ายน้ำมันเครื่อง ล้างอัดฉีดรถยนต์ เหมืองถ่านหิน สนามมวย สนามม้า ฯลฯ ทุกกิจการที่ว่ามา กองทัพไม่เคยชี้แจงว่ามีรายได้เท่าไร แต่เก็บเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง
3 ปีผ่านไป หลังจาก พล.อ. ประยุทธ์บอกว่าจะสังคายนาทั้งที่ดินและธุรกิจของกองทัพ พบว่า กองทัพอากาศแจ้งใช้ที่ราชพัสดุไป 107 แปลง ทำสัญญาไปแล้ว 74 แปลง แม้จะมีความคืบหน้ามากที่สุด แต่ก็ยังไม่ได้แจ้งรายการสนามกอล์ฟธูปะเตมีย์ สนามกอล์ฟขนาดใหญ่ชื่อดังของกองทัพอากาศ รวมถึงสนามงู สนามกอล์ฟกลางสนามบินดอนเมือง
ขณะที่กองทัพบก มีที่ราชพัสดุเชิงธุรกิจราว 300,000 ไร่ แต่ทำสัญญากับกรมธนารักษ์สำเร็จเพียง 714 ไร่เท่านั้น ส่วนกองทัพเรือมีการวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนในการทำธุรกิจ พบว่าจุดแข็งคือการมีต้นทุนจากที่ดินราชพัสดุ ทำให้กองทัพเรือได้เปรียบในการแข่งขันราคาและที่ตั้ง แต่จุดอ่อนคือกำลังพลขาดทักษะในการทำงานเชิงธุรกิจ
📌จิรัฏฐ์ ตั้งคำถามว่า หากนำที่ดินเหล่านี้ไปสร้างบ้านมั่นคงให้ประชาชน อาจสร้างได้ถึง 4 ล้านหลัง สำหรับคน 4 ล้านครอบครัว ยังไม่นับว่า 3 ปีที่ผ่านมา ทั้ง 3 เหล่าทัพยังไม่ได้ยื่นบัญชีแสดงสวัสดิการย้อนหลัง ไม่แจกแจงเลยว่าได้เงินไปเท่าไร
“ขณะที่คนไทยหลายล้านคนไม่มีที่ดินของตัวเอง แต่กองทัพกลับถือครองเป็นล้านไร่ ยิ่งถือครองเยอะก็ยิ่งมีโอกาสเกิดข้อพิพาทกับประชาชนเยอะ อดีต ผบ.ทบ. เคยพูดหลังเกิดเหตุการณ์ที่โคราชเมื่อปี 2563 ว่าอย่าโกรธกองทัพ เพราะกองทัพศักดิ์สิทธิ์ แต่ผมคิดว่าถ้ายังเป็นแบบนี้ ไม่เรียกว่าศักดิ์สิทธิ์ น่าจะ ‘ปรสิต’ มากกว่า”