การเปิดนโยบาย ‘สิ่งแวดล้อมไทยก้าวหน้า’ วันนี้ที่ชุมชนปากคลองรังสิต จังหวัดปทุมธานี ด้วยการตั้งโพเดียมให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยืนแถลงกลางน้ำ อาจเป็นภาพที่ดูแปลกตา แต่เป็นความแปลกตาที่ตั้งใจทำอย่างมีเป้าหมาย
พิธาระบุว่า นี่คือการแถลงนโยบายสิ่งแวดล้อม ‘เชิงสัญลักษณ์’ ได้รับแรงบันดาลใจจากการกล่าวถ้อยแถลงของรัฐมนตรีการต่างประเทศ ของประเทศตูวาลู ในช่วงการประชุมสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (COP 26)
จุดประสงค์เพื่อสื่อสารว่าปัญหาโลกร้อน เป็นเรื่องใกล้ตัวทุกคน
📍‘ใกล้ตัว’ เพราะกระทบต่อการใช้ชีวิตและการทำมาหากินของประชาชนจริงๆ ยกตัวอย่าง พื้นที่ปทุมธานีที่เป็นสถานที่แถลงนโยบายวันนี้ คนในชุมชนนี้บอกว่าในอดีตน้ำท่วม 2-3 เดือนต่อปี แต่ปัจจุบันน้ำท่วม 5-6 เดือนต่อปี
สอดคล้องกับข้อมูลภาพรวมของประเทศ เมื่อ พ.ศ. 2549 พื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากมี 10 ล้านไร่ ตอนนี้เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าเป็น 27 ล้านไร่ และสอดคล้องกับรายงานของธนาคารโลกที่ระบุว่าปี 2011-2045 (พ.ศ. 2554-2588) โลกร้อนจะสร้างความเสียหายต่อภาคเกษตรไทยราว 3 ล้านล้านบาท ผลิตพืชต่างๆ ได้น้อยลง เช่น ข้าวน้อยลง 13% มันลดลง 21% อ้อยลดลง 35%
ถึงอย่างนั้น บางฝ่ายก็มองว่าปัญหาโลกร้อน เป็นเรื่องไกลตัว
📍‘ไกลตัว’ คือ ไกลจากการรับรู้ของผู้มีอำนาจในทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา ที่ต่อให้มีความรู้ความเข้าใจเชิงวิทยาศาสตร์ถึงสาเหตุของปัญหา แต่อาจขาดความตระหนก-ตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหาที่มีแนวโน้มสร้างผลกระทบมากขึ้นเรื่อย ๆ
รัฐบาลอาจบอกว่าเราสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับสหประชาชาติ แต่ตัวเลขเหล่านั้น เราเก็บเอง เขียนรายงานเอง ต่างจากการประเมินโดยองค์กรระหว่างประเทศ ที่บอกว่าการรับมือในเรื่องนี้ของไทยอยู่ในระดับ “ไม่เพียงพอขั้นวิกฤติ” (Critically Insufficient) และหากทำตามนโยบายปัจจุบันของรัฐบาลต่อไป จะทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น 4 องศา ในขณะที่ความพยายามของทั้งโลก ต้องการให้ต่ำกว่า 2 องศา
ที่ผ่านมา มักมีการรณรงค์ว่าการแก้ปัญหาเรื่องนี้ต้อง ‘เริ่มที่ตัวเรา’ แต่ปัญหาโลกร้อนนั้น จะแก้ไขได้ในระดับประเทศ ต้องไม่ใช่แค่การขอให้ประชาชน ‘ช่วย’ – เช่น ช่วยรีไซเคิล ช่วยแยกขยะให้ถูกต้อง – แต่คือการที่รัฐต้องมีนโยบายสาธารณะ ทั้งเชิงรับและเชิงรุก และไม่มองว่าเรื่องนี้เป็นแค่นโยบายสิ่งแวดล้อม แต่มองเป็นนโยบายด้านเศรษฐกิจและนโยบายต่างประเทศไปพร้อมกัน
“ปัญหาโลกร้อนเป็นภัยความมั่นคงของยุคปัจจุบัน นี่คือศัตรูตัวจริงของรัฐบาล ไม่ใช่ความมั่นคงทางทหารแบบเดิมอีกต่อไป ดังนั้น พรรคก้าวไกลต้องการประกาศศึกกับภาวะโลกร้อน โดยมีนโยบายที่ชัดเจน ทั้งเชิง ‘รับ’ เพื่อรับมือผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้วและมีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้นจากสภาพอากาศที่แปรปรวน และเชิง ‘รุก’ ที่รุกไปที่ต้นตอของปัญหา เพื่อลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้จริง ควบคู่กับสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับการรักษาสิ่งแวดล้อม”
พิธากล่าว
👉สำหรับชุดนโยบาย “สิ่งแวดล้อมไทยก้าวหน้า” ของพรรคก้าวไกล ต้องการเอาจริงกับปัญหาโลกร้อน ผ่านนโยบายเชิงรุกและเชิงรับ ต่อไปนี้
A. เชิงรุก: เร่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 (พ.ศ. 2593)
📌ด้านการผลิตไฟฟ้า = เปิดตลาดเสรี ส่งเสริมไฟฟ้าสะอาดพลังงาน:
- “หลังคาสร้างรายได้” เปิดเสรีโซลาร์เซลล์ครัวเรือน
- “ปลดล็อกระเบียบ” สร้างตลาดซื้อ-ขายไฟฟ้าเสรีของประชาชน
- “ประกันราคา” ไฟฟ้าพลังงานสะอาด สำหรับครัวเรือน
- “ปลดระวางโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งหมด” ภายใน พ.ศ.2580
📌ด้านการเกษตร = ป้องกันการเผา เปลี่ยนก๊าซเรือนกระจกเป็นรายได้:
- กำจัดการเผาภายใน 3 ปี งบปรับตัวตำบลละ 3 ล้านบาท 1,000 ตำบล
- เปลี่ยนการเผาเป็นเงินในกระเป๋าเกษตรกร งบอุดหนุนปลูกข้าว “เปียกสลับแห้ง” แทนการเผา สร้างอุตสาหกรรมแปรรูปฟางข้าว-ซังข้าวโพดแทนการเผา
- 1 ฟาร์มปศุสัตว์ 1 บ่อหมักก๊าซชีวภาพ (เป็นอย่างน้อย) เปลี่ยนมีเทนเหลือทิ้งให้เป็นพลังงาน
📌ด้านอุตสาหกรรม = จำกัดการปล่อยมลพิษอุตสาหกรรม:
- กำหนดเพดานและเปิดตลาด (Cap & Trade) การปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายอุตสาหกรรม เปิดตลาดค้าขายแลกเปลี่ยนโควตา
- PRTR – กฎหมายเปิดข้อมูล บังคับให้ทุกโรงงานเปิดข้อมูล สารพิษอันตรายและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
📌ด้านการขนส่ง = ปรับปรุงการขนส่งให้สะอาดที่สุด:
- รถเมล์ไฟฟ้าทุกจังหวัด ภายใน 7 ปี
- “วันขนส่งฟรี” รณรงค์ลดใช้รถยนต์ส่วนตัว
- เปลี่ยนรถไฟดีเซลเก่าเป็นไฟฟ้า
- ตรวจสภาพรถยนต์ฟรี! ปีละครั้ง
- ควบคุมปริมาณรถบรรทุกในเขตเมือง
📌ด้านขยะอาหาร = Zero Food Waste กำจัดขยะอาหารเหลือทิ้ง:
- เพิ่มค่าขยะอาหารในห้างใหญ่ บังคับแยกขยะ-เก็บข้อมูล-ทำบัญชีขยะอาหาร
- อาหารเหลือทิ้งแลกสินค้าเกษตรอินทรีย์ ส่งเสริมให้ชุมชนทำปุ๋ยจากอาหารเหลือทิ้ง เพื่อเป็นคูปองซื้อสินค้าเกษตรอินทรีย์ ขยะเหลือทิ้ง 1 กิโล แลกได้ 1 บาท
📌 ด้านพื้นที่สีเขียว = ป่าแลกเงิน เพิ่มพื้นที่สีเขียว:
- ต้นไม้ปลดหนี้ รัฐจ่ายหนี้ค้างให้เกษตรกร ในฐานะค่าเช่า แลกกับใช้ที่ดินของเกษตรกรปลูกไม้ยืนต้น
- ต้นไม้บำนาญ คนปลูกได้รับรายได้เป็นรายเดือน 1,200 บาท/ไร่/เดือน เป็นเวลา 20 ปี
- ต้นไม้ทุนรัฐบาล อุดหนุนงบเกษตรกรปลูกป่า 4,000 บาท/ไร่ ในช่วงเวลา 3 ปี
- ต้นไม้ชุมชน อุดหนุนปลูกป่าชุมชน 4,000 บาท/ไร่/ปี จำนวน 1,000 ชุมชน
- เพิ่มพื้นที่สีเขียวในเมือง ด้วยการเพิ่มงบท้องถิ่น ผ่านนโยบายทุกจังหวัดไทยก้าวหน้า
B. เชิงรับ: ช่วยประชาชนรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นแล้ว
- กองทุนปรับตัวรับมือภัยพิบัติ-น้ำท่วม
- เตือนภัยทั่วถึง ครอบคลุมทุกท้องถิ่น
- ท้องถิ่นประกาศเขตพื้นที่ภัยพิบัติได้
- ทบทวนแผนการบริหารจัดการน้ำทั้งหมดรายลุ่มน้ำ
- ศูนย์พักพิง-อพยพมีมาตรฐาน ท้องถิ่นมีอำนาจและงบประมาณ
- ชดเชยเป็นธรรมและทันควัน
- ประกันภัยพืชผล ฟรี ในทุกพื้นที่รับน้ำ
หากสนใจอ่านเนื้อฉบับเต็มลงรายละเอียดแต่ละหัวข้อย่อยของนโยบาย คลิกอ่านที่นี่เลย
หลังจากนี้ พรรคก้าวไกลยังมีนโยบายสิ่งแวดล้อมในมิติอื่นๆ ที่จะเปิดอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดการขยะ ปัญหากัดเซาะชายฝั่ง ปัญหาช้างป่า ปัญหามลพิษทางอากาศ ปัญหามลพิษทางแสง
โปรดติดตาม และ ร่วมสนับสนุนเรา เลือกพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาล ทำนโยบายเหล่านี้ให้เป็นจริง
เนื่องจากพื้นที่ที่ใช้แถลงวันนี้คือคลองรังสิต ปทุมธานี เราจึงขอเสริมเติมท้ายด้วยรายชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล (จากซ้ายไปขวา)
- เชตวัน เตือประโคน
- ประสิทธิ์ ปัทมผดุงศักดิ์
- เจษฎา ถาวรธรรมฤทธิ์
- สกล สุนทรวาณิชย์กิจ
- ชลธิชา แจ้งเร็ว