free geoip

ปทุมสีส้ม ป้องแชมป์เขตเดิม รุกเพิ่มเขตใหม่!!!

ขอขอบคุณพี่น้องชาวปทุมธานี

การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญเหลือเกิน ไม่ใช่แค่กาให้พรรคก้าวไกลได้รับชัยชนะ แต่เรายังต้องปักธงอนาคต ปักธงวัฒนธรรมทางการเมืองแบบก้าวไกล การเมืองที่ทำงานด้วยอุดมการณ์ พร้อมเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชน

เหลือเวลาอีก 60 วัน ปิดฉากระบอบปรสิตผ่านบัตรเลือกตั้งของประชาชน

ย้อนชมการถ่ายทอดสด


Highlight เวทีปราศรัย





เลือกตั้งครั้งนี้คือการจบวาระสุดท้ายของประยุทธ์-ประวิตร แต่ยังมีอีกภารกิจสำคัญ คือต้องปักธงวัฒนธรรมการเมืองใหม่ให้ได้


พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขึ้นปราศรัยปิดการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกลจังหวัดปทุมธานีที่ตลาดจัมโบ้ ต.คลองสาม อ.คลองหลวง โดยพิธากล่าวว่าเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นวาระสุดท้ายของ พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร การเลือกตั้งครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่เปลี่ยนรัฐบาลและนโยบาย แต่ต้องปักธงวัฒนธรรมทางการเมืองแบบใหม่ด้วย


พิธากล่าวว่าสัปดาห์นี้ พล.อ.ประยุทธ์ทำงานเป็นสัปดาห์สุดท้าย พอกันที 8 ปีที่แปดเปื้อน 8 ปีที่ผ่านมาบริหารประเทศย่อยยับอย่างไร ตอนนี้ก็ยังย่อยยับอย่างนั้น มีโฆษณาออกมาจากพรรครวมไทยสร้างชาติว่านโยบายพรรคการเมืองต่างๆ เหมือนไอติมที่แบ่งกันดูด ส่วนพรรคของ พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นไอติมสีน้ำเงินผ่านมือถือ

“แต่เราลืมว่าภายใต้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์เองไม่ใช่หรือฝนตกไม่ทั่วฟ้า เยียวยาไม่ทั่วถึง ชีวิตสิ้นคำนึง คำนึงถึงแค่ความตาย ครั้งนี้เรามีโอกาสแล้ว เหลือเวลาอีก 60 วัน ถึงเวลาปิดฉากระบอบปรสิตผ่านบัตรเลือกตั้งของประชาชน”


สำหรับพรรคพลังประชารัฐ ที่พล.อ.ประวิตร ประกาศออกมาว่าเป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง รับฟังความคิดเห็นที่หลากหลาย พร้อมตั้งคณะกรรมการผลักดันนโยบายจากทุกพรรคการเมืองร่วมกัน พิธาตั้งคำถามกลับว่าพร้อมนำนโยบายปฏิรูปกองทัพ หยุด 3ป. เอาทหารออกจากการเมือง ยกเลิกเกณฑ์ทหารและธุรกิจของกองทัพของพรรคก้าวไกลด้วยหรือไม่

“ถ้าเรายังจำกันได้ นโยบายพรรคพลังประชารัฐเองเมื่อ 4 ปีที่แล้วยังทำไม่ได้เลย ไม่ต้องไปพูดถึงนโยบายพรรคอื่น”

พิธากล่าว


สุดท้าย พิธากล่าวว่า 8 ปีที่ผ่านมาเป็นทศวรรษที่สูญหาย นับสิบปีที่เราต่อสู้กันมา วันนี้คือวันที่เราต้องฉลองให้กับพวกเราชาวอนาคตใหม่ พรรคการเมืองตั้งใหม่เมื่อปี 2562 แต่สามารถได้คะแนนจังหวัดปทุมธานีมากเป็นอันดับสอง เราต่อสู้กันมาจนถึงวาระสุดท้ายของ พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตรแล้ว แต่มันยังไม่พอ เพราะนักการเมืองพรรคต่างๆ เหมือนไผ่แตกกอ เมื่อกระแสการเมืองเปลี่ยน ก็เกิดการย้ายพรรคกันฝุ่นตลบ

“สิ่งสุดท้ายที่เราจะทำในการเลือกตั้งครั้งนี้ คือการตามหาชัยชนะให้กับคนที่ยืนอยู่ข้างหลังผม ให้เราเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดให้กับประชาชนในการเลือกตั้งครั้งนี้ นอกจากแก้ปัญหาถนน คน คลอง ให้คนปทุมธานีให้ได้แล้ว สิ่งที่พรรคก้าวไกลนำเสนอคือวัฒนธรรมทางการเมืองแบบก้าวไกล วัฒนธรรมทางการเมืองที่ไม่มีทุนใหญ่อยู่ข้างหลัง ขับเคลื่อนด้วยสมาชิกพรรคและผู้แทนประชาชนที่พร้อมรับใช้ประชาชน ไม่มีการซื้อเสียง ไม่มีหัวคะแนน”

“การเลือกตั้งครั้งนี้สำคัญเหลือเกิน ไม่ใช่แค่พรรคก้าวไกลชนะถล่มทลาย แต่เรายังต้องปักธงอนาคต ปักธงวัฒนธรรมทางการเมืองใหม่แบบก้าวไกล ที่นี่เป็นที่แรกอย่างแน่นอน”

พิธากล่าวทิ้งท้าย





วันนี้เราได้ทำให้ ส.ว.คนหนึ่งน้ำตาไหล เพราะการทำหน้าที่ในฐานะ “ฝ่ายค้าน” แต่ถ้าอยากได้เวอร์ชั่นดีกว่านี้ ต้องเลือกเราเป็นรัฐบาล!


ที่ผ่านมาไม่ว่าลงพื้นที่กี่จังหวัด เจอปัญหาเดียวกันคือ ‘ของแพง ยาบ้าถูก’ เป็นปัญหาใหญ่ ที่กำลังทำลายลูกหลานของเรา พอไปดูว่ายาเสพติดส่วนใหญ่มาจากไหน ก็พบว่ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งที่มีด่านเต็มไปหมดทั้งด่านทหาร-ตำรวจ แต่ทำไมเจ้าหน้าที่รัฐไม่จัดการให้เด็ดขาด ที่เป็นแบบนี้เพราะมีคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด มาเกี่ยวข้องกับการเมือง เป็น ‘คนทรงเอ’ ที่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีรวมถึงเกี่ยวข้องกับที่ทำการของพรรคการเมืองบางพรรคใช่หรือไม่?


เรากังวลว่าเรื่องนี้จะมีคนอยู่เบื้องหลังที่ทำให้เกิดการล้มคดี ซึ่งจะทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรม การเลือกปฏิบัติเรื่องการออกหมายจับ ว่าคนนั้นคนนี้ต้องมีขั้นตอนพิเศษ จะทำให้ประชาชนตั้งคำถามว่าเขาจะมีสิทธิพิเศษแบบนี้บ้างหรือไม่

“ท่านจะบอกว่าผมเป็น ส.ส. ต้องได้รับการปฏิบัติเหมือนท่าน เรื่องนี้ตลกร้าย เพราะผมเคยถูกออกหมายจับในคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาต่อมูลนิธิป่ารอยต่อ น่าแปลกใจที่คดีเล็กๆ แบบนี้ แต่ผมยังถูกออกหมายจับ ส่วนที่บอกว่าหลักฐานแชทที่ผมใช้ในการอภิปราย มีเอกสารปลอมหรือแปลผิด ก็ชี้มาเลยว่าส่วนไหนที่ผิด”


นอกจากกรณี ส.ว.ทรงเอ ภายใต้การบริหารของรัฐบาลชุดนี้ ยังมีปัญหาทุนจีนสีเทา ธุรกิจมืด แก๊งคอลเซนเตอร์ เพื่อจะแก้ปัญหาทั้งหมดนี้ เราต้องการพรรคการเมืองที่เป็นพลังใหม่ เข้ามาสร้างความเปลี่ยนแปลง กล้าแก้ปัญหาที่ต้นตอ นี่คือคุณสมบัติของพรรคก้าวไกล

“หากพรรคการเมืองยังเป็นแบบที่เป็นอยู่ การเมืองไทยจะไม่มีวันเปลี่ยน เรายอมรับไม่ได้ พรรคการเมืองอะไรก็แล้วแต่ ที่จะต้องไว้ชีวิตไม่แตะ 1 ป. เพื่อกำจัดอีก 1 ป. เพราะทั้ง 3 ป. นั้นเลวร้ายพอกัน”

รังสิมันต์กล่าว





ในเดือนพฤษภาคมปีนี้ จะครบ 9 ปีที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยึดอำนาจ ถือเป็น 1 ทศวรรษที่สูญหาย สูญเสีย และสิ้นหวังของสังคมไทย

“9 ปีภายใต้ระบบนายทุน ขุนศึก ศักดินา เสนาพาณิชย์ พวกเขานำเรามาถึงปากเหวในทุกด้าน มองไม่เห็นอนาคตข้างหน้า ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สาธารณสุข การศึกษา สิ่งแวดล้อม”



ตลอด 4 ปี การทำงานของ ส.ส. พรรคก้าวไกลในสภาฯ สมัยแรก ได้พิสูจน์ทุกอย่าง เราขยับความก้าวหน้าได้หลายเรื่อง และเราจะทำได้มากกว่านี้หากมีพลังของประชาชนหนุนหลัง

ดังนั้น ในอีกไม่ถึง 60 วันข้างหน้า พี่น้องประชาชนจะมีโอกาสได้ใช้สิทธิกำหนดอนาคตของตัวเองอีกครั้ง ขอให้ออกไปเลือกพรรคก้าวไกลเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง ให้การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต

เรายืนยันว่าปัญหาปากท้องกับการเมืองเกี่ยวข้องกัน เป็นเรื่องเดียวกัน ไม่สามารถแก้เรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยลำพัง เพราะฉะนั้นอย่าให้ใครมาพูดโกหกว่าต้องแก้เรื่องนั้นก่อนเรื่องนี้ก่อน เพราะเราทำทั้งสองเรื่องไปพร้อมกันได้




อีกไม่นานจะถึงวันเลือกตั้ง เราควรคุยกันว่าพรรคไหนมีนโยบายอะไร พรรคไหนเสนอใครเป็นนายกฯ อนาคตประเทศไทยจะเป็นอย่างไร แต่ทุกวันนี้ข่าวสารการเมืองไทยมีแต่เรื่อง ดึง-ดูด-กวาด-ต้อน ส.ส. เข้าพรรค


“ไม่มีละอายเลยหรือ ไม่เลือกพันธุ์ไม่เลือกประเภทเลยหรือ ขออย่างเดียวเป็น ส.ส. กวาดมาให้หมด เอาปริมาณไปก่อนคุณภาพไว้ทีหลัง แต่สำหรับพรรคก้าวไกล จิตวิญญาณของเราตั้งแต่สมัยพรรคอนาคตใหม่ เราพยายามคัดสรรบุคคลที่มีความคิดอุดมการณ์เดียวกันมารวมกัน ลงสมัครรับเลือกตั้งเพื่อเข้าไปมีอำนาจรัฐ เอาอำนาจรัฐมาเปลี่ยนแปลงประเทศ”

“การเมืองแบบรวบรวมคนมาทำหน้าที่เป็น ‘นักสัมปทานแย่งอำนาจรัฐ’ ทุกสี่ปี ต้องจบสิ้นเสียที แน่นอนว่าทุกพรรคการเมืองลงเลือกตั้ง ย่อมอยากเป็นรัฐบาล แต่ต้องเป็นอย่างสง่างาม ไม่ใช่คิดถึงจำนวนเยอะๆ แล้วลืมอุดมการณ์ไปหมด นี่จึงเป็นที่มาที่เราตั้งพรรคอนาคตใหม่ต่อเนื่องมาถึงพรรคก้าวไกล ประกาศจุดยืนว่าเราเลือกคนจากความคิด ไม่ใช่ปริมาณ”

“และประกาศชัดเจนว่าหากพรรคทหารจำแลงเข้ามาร่วมรัฐบาลหรือเป็นแกนจัดตั้งรัฐบาล พรรคก้าวไกลก็เป็นฝ่ายค้านได้ ดังนั้น ถ้ารัฐบาลชุดหน้ามีชื่อ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็เป็นผู้นำฝ่ายค้าน ไม่มีปัญหา แต่ถ้าพี่น้องอยากเห็นพิธาเป็นนายกฯ ก็ต้องเลือกก้าวไกลให้ถล่มทลาย เลือกทั้งสองใบทั่วประเทศ”

“ไม่ต้องกังวลการวิเคราะห์ของคนกลุ่มต่างๆ ว่าเราต้องลงคะแนนอย่างมียุทธศาสตร์ ต้องระวังว่าลงคะแนนแล้วเสียงไม่ตกน้ำ มันง่ายๆ แค่นี้ แค่เลือกก้าวไกลทั้งหมด ทุกเขต ทุกคน ทุกใบ ไม่ตกน้ำแน่นอน และถ้าก้าวไกลเป็นรัฐบาล ก็จะเป็นรัฐบาลที่ชัดเจนในจุดยืนประชาธิปไตย”

“ตอนนี้ผลโพลสำรวจบอกว่าเลือกตั้งครั้งนี้ได้เปลี่ยนขั้วรัฐบาลแน่นอน แต่เปลี่ยนขั้วรัฐบาลไม่พอ ต้องเปลี่ยนประเทศไทย เปลี่ยนการเมืองให้ดีด้วย ถ้าประชาชนอยากเห็นพลังใหม่ อยากเห็นการเมืองดี-ปากท้องดี-มีอนาคต พอกันทีกับการเมืองแบบเดิมๆ อยากเห็นผู้แทนที่ติดดิน ทำงานในพื้นที่อย่างขยันขันแข็งและกล้าหาญต่อต้านอำนาจอยุติธรรมทุกรูปแบบ ต้องสนับสนุน ส.ส. พรรคก้าวไกล เข้าไปยกมือให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ คนที่ 30 ของประเทศไทย”

Login

พรรคก้าวไกล

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า