กรณี อุปกิต ปาจารียางกูร หรือ ‘ส.ว.ทรงเอ’ ที่มีสายสัมพันธ์กับขบวนการค้ายาเสพติดของ ‘ทุน มิน ลัต’ เข้าพบผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด เพื่อแจ้งความประสงค์ขอต่อสู้คดีเมื่อวานซืนนี้ (27 มีนาคม) รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ระบุว่าแม้จะเป็นความคืบหน้า แต่ก็ไม่ได้เป็นที่น่าพอใจอย่างถึงที่สุด
เนื่องจากข้อหาสมคบกันฟอกเงินที่มีการแจ้งในเบื้องต้น ยังไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงทั้งหมดที่ว่า ส.ว.อุปกิต มีส่วนเกี่ยวข้องพัวพันกับขบวนการของทุน มิน ลัต และพวก ซึ่งถูกแจ้งข้อหาสมคบกันค้ายาเสพติดและสนับสนุนช่วยเหลือเพื่อให้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดที่มีความร้ายแรง อันเป็นข้อหาที่มีอัตราโทษคนละอย่างกับข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ทั้งนี้ เข้าใจว่าเป็นเพราะ ส.ว.อุปกิต ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนก่อน แต่ก็มีความคาดหวังว่าในภายหลังอัยการสูงสุดจะมีคำสั่งแจ้งข้อกล่าวหาในมาตรฐานเดียวกัน
ในส่วนของการดำเนินคดีสมคบกันฟอกเงิน หน่วยงานสำคัญที่มีหน้าที่ดำเนินการในทันทีคือสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รังสิมันต์หวังว่าจะดำเนินคดีอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไม่ต้องบ่ายเบี่ยงอีกต่อไป เพราะบัดนี้ได้มีการแจ้งข้อหาสมคบกันฟอกเงินไปแล้ว ก็ขอให้ ปปง. ทำหน้าที่ของตัวเอง ดำเนินการยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ส่วนทางด้านอัยการนั้น หวังว่าจะมีการดำเนินการต่อด้วยความรวดเร็วอย่างที่ได้สัญญาไว้กับประชาชนเช่นกัน
“ถึงที่สุด ผมยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ถ้าคดีนี้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย ในการทำให้คดีออกมาบริสุทธิ์ยุติธรรมได้อย่างแท้จริง ผมคิดว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ต้องรับผิดชอบทั้งหมด ผมหวังว่าเราจะได้เห็นความบริสุทธิ์ยุติธรรมร่วมกัน”
รังสิมันต์ กล่าว