ฤดูกาลจับใบดำ-ใบแดงเวียนกลับมาอีกครั้ง โดยเช้านี้ ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล จากทั่วประเทศ ได้กระจายตัวทำกิจกรรมสังเกตการณ์ ชวนพูดคุย และทำโพลสำรวจความเห็นต่อข้อเสนอยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร ณ หน่วยจับใบดำ-ใบแดงในเขตเลือกตั้งของตนเอง (เช่น กรุงเทพมนาคร ปทุมธานี นครปฐม ลำปาง อุตรดิตถ์ พิจิตร มุกดาหาร อุบลราชธานี บุรีรัมย์ นครราชสีมา ชุมพร กระบี่)
พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบายพรรคก้าวไกล กล่าวว่า “หากก้าวไกลเป็นรัฐบาล เราตั้งเป้าจะยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารภายใน 1 ปี เพื่อให้เมษายนปีนี้ เป็นครั้งสุดท้าย ที่ต้องมีคนมาจับใบดำ-ใบแดง หรือต้องมีคนเป็นทหารทั้งที่ไม่อยากเป็น
“เหตุผลที่พรรคก้าวไกลเสนอการยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร เพราะระบบเกณฑ์ทหารทำให้เกิดความสูญเสียในสองระดับด้วยกัน กล่าวคือ การสูญเสียเสรีภาพในระดับปัจเจกบุคคล ซึ่งกระทบต่อเสรีภาพในการประกอบอาชีพ โอกาสความก้าวหน้าทางการงาน และเวลาที่ได้อยู่กับครอบครัว ส่วนอีกระดับหนึ่งคือ การสูญเสียมูลค่าทางเศรษฐกิจระดับประเทศ เพราะเป็นการดึงทรัพยากรมนุษย์ออกจากตลาดแรงงานในวันที่ประเทศไทยเผชิญกับ “สังคมสูงวัย” และโครงสร้างประชากรที่มีสัดส่วนคนวัยทำงานที่ลดลง”
พริษฐ์ ยืนยันว่าการยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหารจะไม่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ เพราะหากเราลดยอดกำลังพลที่ไม่จำเป็นหรือไม่เกี่ยวข้องกับงานด้านความมั่นคง (เช่น พลทหารรับใช้) ควบคู่กับการยกระดับสวัสดิการ-สวัสดิภาพของพลทหารและการกำจัดความรุนแรงในค่าย ยอดทหารที่สมัครใจเข้ามาจะเพิ่มขึ้นและเพียงพอต่อภารกิจการรักษาความมั่นคงของประเทศ ซึ่งหากการยกเลิกเกณฑ์ทหารสามารถเกิดขึ้นได้จริงจะส่งผลดีกับทุกฝ่าย ไม่เว้นแม้แต่กองทัพ ที่จะได้ลบข้อครหาว่าเป็นสถาบันอำนาจนิยม” และก้าวสู่ “กองทัพยุคใหม่” ที่เต็มไปด้วยบุคลากรที่สมัครใจทำงานและพร้อมทุ่มเทให้องค์กรอย่างแท้จริง
ด้าน วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่า กทม. กล่าวเพิ่มเติมว่า “ถ้าสามารถเปลี่ยนจากการบังคับเกณฑ์ทหารมาเน้นเป็นการสมัครใจทั้งหมด สวัสดิภาพและสวัสดิการของทหารชั้นผู้น้อยจะได้รับการเอาใจใส่มากขึ้น และจะเกิดความสบายใจให้กับทุกคน” วิโรจน์ยังกล่าวต่อว่า “ทหารไม่ใช่อาชีพเดียวที่รับใช้ชาติ แต่ทุกอาชีพมีส่วนในการร่วมกันรับใช้ชาติทั้งหมด การจ่ายภาษีให้กับรัฐก็สามารถนับเป็นการรับใช้ชาติได้เช่นกัน การถูกเกณฑ์เข้าไปดูแลบ้านหรือครอบครัวของนายทหารชั้นผู้ใหญ่ต่างหากที่น่าตั้งคำถามว่าเป็นการรับใช้ชาติจริงหรือ ทั้งนี้ หากการบังคับเกณฑ์ทหารถูกยกเลิกได้จริง จะทำให้งบประมาณจำนวนมหาศาลได้รับการจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยอัตโนมัติ”
วิโรจน์ย้ำว่า การยกเลิกการเกณฑ์ทหารเป็นหนึ่งนโยบายในการปฏิรูปกองทัพของพรรคก้าวไกลที่ครอบคลุมอีกหลายวาระ ตั้งแต่การปิดช่องรัฐประหารและการแทรกแซงการเมืองโดยกองทัพ การโอนธุรกิจกองทัพมาอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลเพื่อให้เกิดความโปร่งใส รวมถึงการแก้กฎหมายและระเบียบกลาโหมทั้งหมดเพื่อให้กองทัพอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือนที่ยึดโยงกับประชาชน ซึ่งจะทำให้ทหารทุกคนได้ทำหน้าที่เป็นทหารอาชีพอย่างแท้จริง