
วันพฤหัสบดีที่ 11 มีนาคม 2564 ส.ส.ธีรัจชัย พันธุมาศ และ ส.ส.ชวลิต เลาหอุดมพันธุ์ เป็นตัวแทนจากพรรคก้าวไกล เดินทางไปที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อให้เปิดเผยรายงานผลการตรวจสอบข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงในคดีอาญาที่นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ “บอส อยู่วิทยา” หรือ “ทายาทกระทิงแดง” ขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ เสียชีวิตเมื่อปี 2555
ธีรัจชัย กล่าวว่า ตนขอใช้สิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารตาม พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 เพื่อขอให้มีการเปิดเผยเอกสารการตรวจสอบของคณะกรรมชุดที่มี “วิชา มหาคุณ” เป็นประธานกรรมการ โดยขอคัดลอกสำเนารายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายของคณะกรรมการชุดวิชาฉบับเต็มสมบูรณ์ และเอกสารรายงานผลความคืบหน้าของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ซึ่งมีผลการตรวจสอบของหน่วยงานอย่างกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) สภาทนายความ อัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่อยู่ในคณะกรรมการดังกล่าวด้วย
โดยส่วนหนึ่งของของรายงานสรุปที่มีการเผยแพร่ก่อนหน้านี้ พบว่า “มีการร่วมมือกันอย่างเป็นระบบของเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรม เจ้าหน้าที่ของรัฐ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทนายความ พยาน และบุคคลทั่วไป ในการเข้าแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการดำเนินคดีจนถึงปัจจุบัน โดยใช้ช่องโหว่ของกฎหมาย ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อิทธิพลบังคับ และการสร้างพยานหลักฐานอันเป็นเท็จ เพื่อช่วยเหลือผู้ต้องหาให้รอดพ้นจากการถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ธีรัจชัย เปิดเผยว่า การดำเนินการติดตามตัววรยุทธ พบหมายแดงที่ออกในขณะนี้เป็นหมายแดงส่วนบุคคล และใช้เลขพาสปอร์ตที่ยกเลิกไปแล้ว แต่หมายแดงที่ออกไปเพื่อติดตามตัววรยุทธนั้นไม่สามารถใช้ได้แน่นอน เพราะใช้เลขพาสปอร์ตที่หมดอายุไปแล้ว ดังนั้นหมายที่ออกไปควรเป็นหมายสาธารณะที่เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปตรวจสอบในเว็บไซต์อินเตอร์โพลได้เลย และไม่ควรจะใช้เลขพาสปอร์ตอย่างเดียว ควรใช้ลายพิมพ์นิ้วมือกับรูปหน้าด้วย แต่รัฐบาลไทยไม่ได้ติดตาม ไม่ได้ไยดีที่จะทำส่วนนี้
ทีแรก เมื่อข่าวออกว่าอัยการสั่งไม่ฟ้องทายาทกระทิงแดงโดยอ้างเหตุผลต่างๆ นานา ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ก็ทำท่าทีขึงขังต่อต้านการทุจริต แต่เมื่อรายงานฉบับเต็มออกมาแล้วกลับไม่กล้าเปิดเผยและดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เพื่อคืนความเชื่อมั่นของประชาชนต่อรกระบวนการยุติธรรมประเทศไทย
ดังนั้น เมื่อครบเวลา 7 วันแล้วหากไม่มีความคืบหน้า ทางพรรคก้าวไกลจะดำเนินการขั้นต่อไป
ย้อนอ่านคำอภิปรายของ ส.ส. ธีรัจชัย พันธุมาศ ได้ที่นี่
https://www.moveforwardparty.org/parliament/mfpcensure2021/1561/
หรือถ้าหากสะดวกฟังคำอภิปรายในสภาเต็ม สามารถรับชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่