วรรณวรี ก้าวไกล ยานนาวา/บางคอแหลม ถามดังๆ ถึงประยุทธ์ คนไทยจะฉีดวัคซีนครบเมื่อไหร่ SMEs กำลังจะไปไม่รอดแล้ว ไม่อยากเห็นประเทศไทยมีรัฐบาลที่จัดการวัคซีนได้แย่ที่สุดในโลก
หลังจากที่เจ้าสัว CP และ 40 CEO บริษัทชั้นนำ ออกมาเสนอแนะรัฐบาลเรื่องการจัดหาวัคซีน วรรณวรี ตะล่อมสิน ส.ส. ก้าวไกล เขต 3 กทม. เขตยานนาวา/ บางคอแหลม ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีนี้ โดยบอกไปถึงรัฐบาลว่าประเทศไทยไม่ได้มีแต่เจ้าสัว ช่วยฟังเสียงธุรกิจรากหญ้า SMEs ด้วย
“ที่เราเห็นไม่ว่าจะเป็นเจ้าสัว CP หรือกลุ่ม CEO บริษัทชั้นนำออกมาพูดเรื่องวัคซีนคงสะท้อนให้เห็นกันแล้วว่าวิกฤตครั้งนี้ คนเดือดร้อนไม่ใช่แค่คนรากหญ้า แต่ผลกระทบได้ขึ้นไปถึงคนระดับกลางและระดับบนแล้ว แต่ดิฉันก็รู้สึกน้อยใจอยู่นิดๆ ที่รัฐบาลออกมาบอกว่าจะจัดหาวัคซีน Pfizer เพิ่มไม่นานหลังจากคนระดับบนเคลื่อนไหว ในขณะที่เศรษฐกิจรากหญ้าที่เดือดร้อนมาตั้งนานแล้วไม่ค่อยได้รับความสนใจ”
รัฐบาลควบคุมโควิดไม่อยู่ เกิดการระบาดระลอก 3 ทำให้ธุรกิจที่คิดว่าจะดีขึ้นในปีนี้ แย่ลงไปอีก “ทุกวันนี้ ดิฉันเดินไปตามห้าง ตามตลาด ตามย่านการค้าต่างๆ สิ่งที่เห็นคือการค้าขายนั้นเงียบมาก กลุ่มคนที่เคยมีกำลังซื้อ เริ่มกลัวการออกมาจับจ่าย และเริ่มระวังการใช้เงินมากกว่าแต่ก่อน เพราะไม่แน่ใจว่าสถานการณ์โควิดจะแย่ต่อเนื่องไปอีกนานเท่าไหร่ จึงต้องเก็บเงินไว้ใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น”
มาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ออกมาเพิ่มเติมนั้น ก็ถือว่าดีขึ้น แต่ก็ยังกังวลว่าการขยายวงเงินสินเชื่อนั้นจะไม่กระจายไปถึงผู้กู้รายใหม่และคนที่เดือดร้อนย่างแท้จริง“สำหรับมาตรการ Softloan รัฐบาลทำให้เห็นชัดมากว่า กระบวนการช่วยเหลือนั้น ล่าช้าไม่ทันการ SMEs ล้มหายตายจากไปเป็นจำนวนมากแล้ว ตั้งแต่ระลอก1-2 ถึงแม้รัฐบาลจะมีการออก พ.ร.ก. Softloan ฉบับใหม่ออกมา ซึ่งมีการปรับปรุงเนื้อหาเพิ่มวงเงินสินเชื่อ และให้มีการปล่อยกู้รายใหม่ตามที่พรรคก้าวไกลเสนอ (เสนอมาแล้วเกือบปีนะคะ-หัวเราะ) แต่ในขั้นตอนการปฏิบัติยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก ธนาคารยังอยากปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการรายเดิม-รายใหญ่มากกว่าอยู่ และรัฐก็ยังไม่สามารถขอความร่วมมือจากธนาคารได้ ส่วนธนาคารรัฐอย่าง SME Bank ที่ควรเป็นความหวังของ SMEs ก็ไม่มีกำลังพอที่จะประคองหรือเป็นความหวังให้ SMEs เลย”
“Asset warehousing หรือโครงการ “พักทรัพย์ พักหนี้” นั้นคนที่ได้ประโยชน์คือภาคธุรกิจอสังหาริมทรัยพ์ โรงแรม หรือผู้ประกอบการที่มีสินทรัพย์ไปค้ำ แต่คนค้าขายโดยที่ไม่มีสินทรัพย์ เช่น ขายของในห้าง ก็ยังตกหล่นจากมาตรการช่วยเหลือตรงนี้”
สุดท้าย สิ่งที่วรรณวรีเรียกร้องคือต้องการให้รัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรีออกมาบอกให้ชัดว่าวัคซีนจะกระจายถึงมือคนไทยส่วนใหญ่ของประเทศเมื่อไหร่ เพื่อให้คนทำธุรกิจวางแผนได้ถูกต้อง
“สำหรับภาคธุรกิจ ตอนนี้เราคิดว่ามาตรการช่วยเหลือเยียวยาเป็นเรื่องรอง เราอยากให้รัฐบาลให้ความชัดเจนมาให้ได้ว่าวัคซีนจะกระจายถึงมือคนส่วนใหญ่เมื่อไหร่ เราจะกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติเมื่อไหร่ จะอีก 3 เดือน 6 เดือน หรือปีหน้า เราจะได้วางแผนธุรกิจได้ว่าต้องมีกระแสเงินสดในมือเท่าไหร่ เพื่อพยุงธุรกิจ ต้องจัดการสต็อกสินค้าในช่วงนี้อย่างไร หรือต้องปิดกิจการไปก่อนแล้วไปรอเปิดใหม่อีกที”
“ตอนนี้ความหวังของทุกคนอยู่ที่วัคซีน แต่สิ่งที่ดิฉันและคนไทยหลายคนไม่อยากเห็น คือเรากำลังจะมีรัฐบาลที่จัดการวัคซีนได้แย่ที่สุดประเทศหนึ่งของโลก”