วันจันทร์ที่ 10 พ.ค. 64 เวลา 10.00 น. Sirikanya Tansakun – ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกลได้มีการจัดแถลงข่าวออนไลน์ถึงกรณีที่จะมีการพิจารณาแผนฟื้นฟูการบินไทยในการประชุม ครม. ที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อให้เจ้าหนี้โหวตรับแผนฟื้นฟู
ศิริกัญญา กล่าวว่า ที่ผ่านมาสิ่งที่เกิดขึ้นรัฐบาล กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม และเจ้าหนี้ คุยข้ามหัวประชาชนไทยไปมา แต่กลับไม่เคยสื่อสารโดยตรงกับประชาชน ทั้งที่การช่วยเหลือการบินไทยต่องใช้ภาษี หรือหากจะค้ำประกันหนี้ เจ้าหนี้ก็จะมาเก็บจากผู้ค้ำซึ่งก็พวกเราประชาชนคนไทยทุกคนป็นหนี้สาธารณะอยู่ดี
“รัฐบาลต้องตอบประชาชนให้ได้ว่า ประชาชนจะได้อะไรจากการเข้าช่วยเหลือการบินไทย หวังผลตอบแทนอย่างไรบ้าง ยังไม่ต้องพูดถึงว่าจะเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่เป็น ทางเลือกไหนดีกว่า สิ่งเหล่านี้ไม่เคยมีคำตอบจากรัฐบาล”
[ แผนฟื้นฟูให้พนักงานเสียสละ แต่นายทุนไม่ลดหนี้ ]
ศิริกัญญายังได้พูดถึงการทำแผนฟื้นฟูที่แผนธุรกิจในส่วนของการลดต้นทุนทำได้ค่อนข้างดี แต่ส่วนแผนการเงิน
“ก่อนอื่นก็ต้องขอชื่นชมคณะผู้บริหารที่ทำแผนธุรกิจไว้ได้ดี และได้ทำในสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดขึ้นได้ นั่นก็คือสามารถจำนวนพนักงานลงไปได้ถึง 13,000 คน ลดจำนวนตำแหน่งผู้บริหาร รวมทั้งมีการเซ็นสัญญาใหม่ที่มีการปรับลดค่าตอบแทนลง”
“แต่สำหรับแผนการเงินก็ถือว่ายังไม่น่าพอใจ สิ่งที่รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังไปเจรจากับเจ้าหนี้มีใจความหลักคือ หนี้ของธนาคารพาณิชย์ไม่มีการลดหนี้ แต่เป็นการยืดหนี้ออกไปอีก 10 ไม่มีการแปลงหนี้เป็นทุนสำหรับเจ้าหนี้เดิม ผู้ถือหุ้นเดิมไม่มีการลดทุน มีแค่การลดหุ้นที่ยังไม่ได้ชำระเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ การขอกู้เพิ่มทุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง 5 หมื่นล้านบาท จากธนาคารพาณิชย์ยังต้องให้กระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกันมากกว่า 25,000 ล้านบาท”
ศิริกัญญา เน้นย้ำว่า แผนนี้ประนีประนอมกับทุกฝ่ายมากเกินไป เกรงใจนายทุนมากเกินไป ไม่ยอมเจ็บแต่จบเพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน จึงเป็นแนวครึ่งๆ กลางๆ เพื่อซื้อเวลาเท่านั้น
[ 3 ข้อเสนอ เจ็บแต่จบ ปลดภาระขาดทุนสะสมการบินไทย ]
ในส่วนของการหาทางออกนั้น ศิริกัญญามีข้อเสนอให้รัฐบาล 3 ข้อ เพื่อล้างขาดทุนสะสม ทำให้ส่วนของทุนกลับมาเป็นบวก และสามารถทำให้การบินไทยอยู่รอดได้อย่างยั่งยืน
- “ข้อเสนอแรก คือ การลดทุน เราจำเป็นต้องลดทุนเพื่อล้างการขาดทุนสะสม ปัจจุบันการบินไทยขาดทุนสะสม 161,898 ล้านบาท ทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ -128,742 ล้านบาท เสนอให้ลดทั้งทุนที่ชำระแล้วและส่วนของทุนอื่น ๆ ซึ่งการลดุนเดิมไม่ใช่อะไรนอกจากเรียกร้องให้ผู้ถือหุ้นต้องร่วมรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น”
- “ขั้นที่สอง เจ้าหนี้ต้องยอมเจ็บ คือ ต้องมีการลดหนี้หรือแปลงหนี้เป็นทุน เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์หรือผู้ถือหุ้นกู้ต้องร่วมรับผิดชอบอีกส่วนหนึ่ง คิดเป็นตัวเลขกลมๆ หนี้ที่สามารถลดได้อยู่ที่ประมาณ 300,00 ล้านบาท ถ้าขอ haircut หรือลดหนี้ได้ 40% จะสามารถทำกำไรลดขาดทุนสะสมได้ถึง 120,000 ล้านบาท”
แต่ข้อควรระวังทุกคนพูดถึงสหกรณ์ออมทรัพย์ที่เป็นเจ้าของหุ้นกู้ ซึ่งในส่วนนี้ก็ต้องช่วยเหลือเป็นรายๆ ไป เพราะผู้ถือหุ้นหรือผู้ฝากเงินสหกรณ์ล้วนแต่เป็นประชาชนรายย่อย
- “ขั้นสุดท้าย เมื่อลดหนี้จนผลของการขาดทุนสะสมเหลืออยู่น้อย แล้ว การเพิ่มทุนใหม่อาจทำได้โดยไม่ต้องเป็นรัฐบาล ถ้ารัฐบาลต้องแทรกแทรงเสนอให้ต้องกำหนดแผนการขายหุ้นออกที่ชัดเจนใน 3-5 ปี เพื่อไม่ให้เกิด moral hazard”
นอกจากนี้ ศิริกัญญายังเสนอให้พิจารณาการเปิดประมูลผู้ร่วมทุนใหม่ หรือหาสายการบินอื่นควบรวมได้ ซึ่่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ฺBritish airways ของอังกฤษที่ควบรวมกับ Iberia ของสเปน, Air France ของฝรั่งเศสที่ควบรวมกับ KLM ของเนเธอแลนด์ การบินไทยในช่วงเริ่มต้นก็เป็นการร่วมทุนเช่นเดียวกัน
“ดังนั้นดิฉันสรุปว่าแผนการนี้เป็นแผนที่เจ็บแต่จบ คือการลดส่วนของทุน เจรจาลดหนี้ และถ้ามีการเพิ่มทุนโดยรัฐต้องมีแผนการออกใน 3-5 ปี เพื่อทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นกลับมาเป็นบวก และสามารถรอดพ้นปัญหาถ้าเกิด shock ขึ้นมาในขณะนี้ และจะเป็นการแก้ปัญหาการบินไทยอย่างยั่งยืน”
ศิริกัญญา กล่าวทิ้งท้าย
สไลด์นำเสนอ : https://www.moveforwardparty.org/…/%E0%B8%AA%E0%B9%84…