เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ อย่ามองมุมเดียวว่า “กำขี้ดีกว่ากำตด” อย่าเพิ่งหลงดีใจว่าพรรคพลังประชารัฐเสนอแก้รัฐธรรมนูญเข้าทางเราแล้ว และด่วนสรุปเล็งผลเลิศว่าเราจะชนะในเกมนี้ แต่ต้องคิดหลายชั้นแล้วเล็งเป้าให้ชัด
เรื่องระบบเลือกตั้ง พรรคก้าวไกลเห็นด้วยกับบัตร 2 ใบ ใบหนึ่งเลือก ส.ส. เขต ใบหนึ่งเลือกพรรค แล้วนำคะแนนเลือกพรรคทั้งประเทศมาคำนวณจำนวน ส.ส. พึงมีของแต่ละพรรคการเมือง เพื่อให้ประชาชนสามารถเลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบ และทำให้สัดส่วนของ ส.ส. ในสภาสะท้อนเสียงของประชาชนมากที่สุด
ทว่าประเด็นสำคัญคือ เรื่องแก้ระบบเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐก็เสนออยู่แล้ว เพราะมาถึงวันนี้คิดว่าตนเองจะได้เปรียบจากระบบที่เสนอ พวกเขาต้องการแก้ระบบเลือกตั้ง แต่ไม่ปิดสวิตช์ ส.ว. ไม่ต้องการให้ยกเลิกอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกฯ ทั้งนี้ก็เพื่อปูทาง “ต่ออายุ” ให้แก่ระบอบประยุทธ์
จะเห็นได้ว่า ต่อให้ไม่มีพรรคการเมืองอื่นเสนอแก้ระบบเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐก็กำลังกำ “ขี้” ก้อนนี้ให้อยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งที่ผู้แทนราษฎรพรรคฝ่ายค้านและพรรคการเมืองอื่นที่ไม่ต้องการเปิดทาง “ต่ออายุ” ระบอบประยุทธ์ ต้องกำให้มั่น คือ การปิดสวิตช์ ส.ว. คู่ขนานกับการผลักดันให้เกิดการลงประชามติถามประชาชนว่าต้องการยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับ คสช. แล้วให้อำนาจประชาชนจัดฉบับใหม่หรือไม่
แน่นอน การปิดสวิตช์ ส.ว. และการผลักดันประชามตินั้น ยากที่จะสำเร็จ แต่ไม่ใช่หน้าที่ของผู้แทนราษฎรที่จะบอกประชาชนว่าอย่าไปหวัง-อย่าไปฝัน
ตรงกันข้าม ผู้แทนราษฎรมีหน้าที่แสวงหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ เพื่อความเปลี่ยนแปลง มีหน้าที่นำความต้องการของประชาชนไปต่อสู้ให้ได้มาอย่างถึงที่สุด
พรรคฝ่ายค้านในสภายังมีอำนาจต่อรอง คือ เสียง 20% ที่สามารถคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐได้ ดังนั้นถ้าระบอบประยุทธ์รวมหัวกันคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอยกเลิกอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกฯ พรรคก้าวไกลเสนอให้พรรคฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาลบางส่วนจับมือกันคว่ำแผนกินรวบเพื่อต่ออายุประยุทธ์ ใช้เสียง 20 % ของฝ่ายค้านไม่โหวตให้พรรคพลังประชารัฐในวาระที่ 3
ติดตาม ข้อถกเถียงเรื่องนี้ระหว่างผมกับคุณสุทิน ในรายของ The Matter เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2564 ได้ที่ link นี้ครับ https://fb.watch/69Ept6SidT/
#ก้าวไกล #แก้รัฐธรรมนูญ #รัฐธรรมนูญใหม่ #ปิดสวิตช์สว #สวมีไว้ทำไม