free geoip

หยุดแก้รัฐธรรมนูญปาหี่ เพราะนี่คือมหากาพย์กินรวบประเทศ!



– การแก้รัฐธรรมนูญแบบพลังประชารัฐ คือ มหากาพย์ ‘กินรวบประเทศ’
– รังสิมันต์ โรม ย้ำ แก้ ม.272 ยกเลิกอำนาจ ส.ว. คือประเด็นเดียวที่ต้องทำให้เด็ดขาด




การแก้รัฐธรรมนูญของเผด็จการ คือเครื่องมือต่อท่ออำนาจและทำลายฝ่ายประชาธิปไตย


ญัตตินี้มีตัวตั้งตัวตีหลักในการริเริ่มคือพรรคพลังประชารัฐ เมื่อได้อ่านเนื้อหาและพิจารณาถึงบริบทแวดล้อมแล้ว บอกได้เลยว่าเป็นบทใหม่ของ มหากาพย์แผนกินรวบประเทศไทยเพื่อสืบทอดอำนาจเผด็จการ ทำให้ประชาชนตัวหดลีบเล็กที่สุด ต้องอยู่อย่างไม่มีศักดิ์ศรีทั้งที่เป็นเจ้าของอำนาจตัวจริงของประเทศนี้

การรัฐประหารเมื่อปี 2549 ได้ทำลายรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เปลี่ยนองค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญให้ขาดหายจากการยึดโยงกับประชาชน ตั้งคนของตัวเองเข้าไปใช้อำนาจกวาดล้างทำลายบรรดาผู้แทนราษฎรฝ่ายตรงข้าม สร้างบรรยากาศทางการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นเองแล้วเอามาผ่านประชามติจอมปลอม ที่ทำให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่สามารถบริหารประเทศได้ ค่อยๆ รุกคืบผ่านการยุบพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม จากนั้นก็เชื้อเชิญบางกลุ่มก้อนในพรรคนั้นให้เข้ามุ้งของตัวเอง จัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร ทำลายขบวนการประชาชน แม้มีรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย ก็ค่อยๆ ใช้กฎหมายบั่นทอนให้อ่อนแอ และสร้างสถานการณ์ไปสู่การรัฐประหารอีกครั้งเมื่อปี 2557

เมื่อยึดอำนาจแล้วก็รวบหัวรวบหางข้าราชการ รวมศูนย์กลุ่มทุนต่างๆ ให้มาสนับสนุนตัวเอง สร้างความเหลื่อมล้ำ ทำประชาชนยากแค้นเพื่อให้เหลือความหวังกับแค่เศษเงินที่รัฐบาลโยนลงไป จากนั้นก็ดูดบรรดาอดีต ส.ส. หัวคะแนนของพรรคตรงข้ามให้มาเป็นพวก เมื่อตัวเองพร้อมก็จัดเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญที่ร่างใหม่แล้วเอามาลงประชามติจอมปลอมอีกครั้ง โดยใช้เครือข่ายอำนาจและอิทธิพลต่างๆ ที่สั่งสมมาเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเอง หนำซ้ำยังแผ่กิ่งก้านสาขาผ่านการดึงพวกพ้องน้องพี่ให้มาดำรงตำแหน่งต่างๆ เพื่อเป็นหลักประกันให้รัฐบาล

บริหารประเทศไปสักระยะก็ตีความกฎหมายให้พวกตนถูกเสมอ อีกฝ่ายผิดเสมอ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เพื่อที่ฝ่ายเผด็จการจะสถาปนา ‘ระบอบประยุทธ์’ ได้อย่างใจปรารถนา

“เพื่อจะได้ไม่มีใครมาตั้งคำถามเรื่องตั๋วช้าง จะได้ไม่มีใครมาตั้งคำถามเรื่องวัคซีน จะได้ไม่มีใครมาแฉเรื่องไอโอ จะได้ไม่มีใครมาเสนอกฎหมายยกเลิกเกณฑ์ทหารหรือกฎหมายแก้ไขมาตรา 112 จะได้ไม่มีใครมาตั้งคำถามเรื่องงบประมาณของกองทัพและงบประมาณที่ใช้เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์อีกต่อไป”



ที่ไล่เรียงมาทั้งหมดก็เพื่อให้เห็นแผนการใหญ่ของฝ่ายเผด็จการ





ส.ว. คืออุปสรรคของประชาธิปไตย


แม้หลายเดือนที่ผ่านมาได้มีความพยายามหยุดยั้งความชั่วร้าย ผ่านการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 และตั้ง สสร. เพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่สุดท้ายก็เกิดการล้มกระดาน โดยตัวการไม่ใช่คนอื่นคนไกล คือ ส.ส. จากพรรคพลังประชารัฐ และ ส.ว. 250 คน ซึ่งบุคคลเหล่านี้ไม่อยากเห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เกิดขึ้น สิ่งที่พวกเขาต้องการจริงๆ คือการแก้รัฐธรรมนูญเฉพาะบางมาตราที่หมดประโยชน์กับตัวเองเท่านั้น

“ต้องไม่ลืมว่าพรรคพลังประชารัฐไม่ใช่พรรคการเมืองทั่วไป แต่เป็น ‘แม่น้ำ’ สายหนึ่งของฝ่าย คสช. ที่ไหลบ่าเข้ามายังสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งยังมีแม่น้ำอีกหลายสาย หลายสาขา ที่ไหลมารวมกันเพื่อออกไปสู่ทะเลแห่งการสืบทอดอำนาจ และการที่แม่น้ำสายพลังประชารัฐขยับเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ไม่ได้ขยับแค่สายเดียว แม่น้ำสายอื่นก็เตรียมขยับตามรัฐธรรมนูญที่จะถูกแก้เพื่อเข้าสู่บทใหม่ของการสืบทอดอำนาจด้วยเช่นกัน”

การพิจารณาญัตติในการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่มากถึง 13 ญัตติในหลากหลายประเด็น พรรคก้าวไกลเห็นว่าประเด็นไหนที่สำคัญที่สุด จำเป็นเร่งด่วนที่สุดและต้องแก้ให้ได้โดยเด็ดขาด มีประเด็นเดียวคือการยกเลิกอำนาจของ ส.ว. ที่จะลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 272 ซึ่งพรรคก้าวไกลได้ลงชื่อในญัตติดังกล่าวร่วมกับพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นๆ

การมี ส.ว. ที่มาจากการเลือกโดย คสช. และมีอำนาจในการเลือกนายกรัฐมนตรีแบบนี้ยังเป็นอุปสรรคต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองตามที่ประชาชนปรารถนา และเป็นการแช่แข็งประเทศไทยไม่ให้ไปข้างหน้า

ส.ว. ชุดนี้ได้ใช้อำนาจที่ตัวเองมีทำลายความรู้สึกและความหวังของคนรุ่นใหม่และพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงในทางการเมืองในหลายครั้ง ไม่ว่าจะโดยการอภิปรายที่ตีตราผู้ที่ออกมาเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางการเมืองให้เป็นศัตรู การคว่ำร่างแก้รัฐธรรมนูญเพื่อตั้ง สสร.ไปจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จนประชาชนนึกไม่ออกว่าแบบนี้จะมี ส.ว. เอาไว้ทำไม

“ทำไมถึงต้องยอมเสียเงินภาษีเดือนละกว่า 28 ล้านบาทเพื่อให้ ‘เฒ่าหลวง’ กลุ่มนี้ขึ้นมาขี่คอประชาชน อวดดีว่าตัวเองเลือกผู้นำได้เก่งกว่าประชาชน”วันนี้ข้อเสนอของสังคมกำลังไปไกลกว่าแค่ยกเลิกมาตรา 272 แล้ว อาจจะคิดไปถึงการยุบ ส.ว. และเปลี่ยนไปสู่ระบบสภาเดี่ยวก็เป็นไปได้ การยกเลิกมาตรา 272 จึงเป็นประตูแรกที่จะออกจากอำนาจเผด็จการที่กำลังปิดล้อมประชาชน หากเปิดประตูบานแรกสำเร็จ หนทางสู่การจัดตั้งรัฐบาลของประชาชนก็ไปต่อได้ แต่ก็อย่างที่คาดหมายได้ ร่างแก้รัฐธรรมนูญของพรรคพลังประชารัฐไม่มีเรื่องนี้ แต่ต้องการแก้บางมาตราให้เป็นไปตามแผนการรวบอำนาจของ คสช. เท่านั้น”



อย่างระบบเลือกตั้งที่เป็นเหยื่อล่อ กกต. ชุดนี้ ถูกเซ็ตซีโร่แล้วตั้งขึ้นมาใหม่ในยุค คสช. เมื่อปี 2561 และในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาก็ได้เห็นสารพัดผลงาน สารพัดความไม่โปร่งใสและไร้มาตรฐาน ขีดเส้นแบ่งเขตเลือกตั้งแบบพิสดารเพื่อเอื้อให้พรรคการเมืองบางพรรคได้ประโยชน์ในหลายจังหวัด ถามว่าทำแบบนี้เอื้อประโยชน์ใคร?





แก้ รธน. สอดไส้ “แก้เพื่อโกง”


อย่างการแก้มาตรา 185 ยกเลิกข้อห้าม ส.ส. กับ ส.ว. แทรกแซงก้าวก่ายการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐและการไปร่วมใช้จ่ายงบประมาณหรืออนุมัติโครงการต่างๆ

แก้มาตรา 144 ยกเลิกการลงโทษ ส.ส. และ ส.ว. ที่ไปแปรญัตติเพิ่มงบประมาณหรือเพิ่มรายการงบประมาณ

เท่ากับว่าต่อจากนี้จะแทรกแซงจะก้าวก่ายก็เชิญทำไป ถ้าโดนจับได้ว่าแอบโยกงบเข้าพื้นที่หรือกลุ่มของตัวเองก็ไม่ว่ากัน ทีหลังไปทำให้แนบเนียนขึ้น อย่างนั้นใช่ไหม

“ไม่เอาแล้วหรือครับกับคำว่ารัฐธรรมนูญปราบโกงที่อวดอ้างกันนักกันหนา? หรือเพราะเป็นตัวเองนั่นแหละที่โดนด่าเองจนหูชามากกว่าใครเพื่อน เลยขอกลับไปสู่วังวนเดิมๆ ดีกว่า”






อย่าอ้างแก้เพื่อสิทธิเสรีภาพ ถ้ารัฐบาลยังละเมิดสิทธิ์ประชาชน


เรื่องการแก้ในเรื่องสิทธิเสรีภาพมีแต่เพียงการแต่งเติมในรายละเอียดปลีกย่อย ทั้งๆที่ ‘ระบอบประยุทธ์’ ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนมากที่สุด

หากเรามีรัฐธรรมนูญที่เคารพต่อเสียงของประชาชน ยกอำนาจของประชาชนและสถาบันที่ยึดโยงกับประชาชนให้เป็นใหญ่ ปราศจากกลไกการสืบทอดอำนาจเผด็จการ สิทธิเสรีภาพในรายละเอียดปลีกย่อยเหล่านั้นย่อมได้รับการคุ้มครองอยู่แล้ว แต่หากการแก้รัฐธรรมนูญยังเป็นแบบที่พรรคพลังประชารัฐเสนอมายังแก้รายมาตราเพื่อการสืบทอดอำนาจของตัวเอง

“ต่อให้แก้เรื่องสิทธิเสรีภาพให้ดูสวยงามเพียงใด เมื่อประชาชนออกมาใช้สิทธิเสรีภาพ ออกมาตั้งคำถาม คัดค้าน วิพากษ์วิจารณ์ผู้มีอำนาจ สุดท้ายพวกเขาเหล่านั้นก็จะยังคงถูกข่มขู่คุกคาม ถูกกราดฟ้องสารพัดคดี ถูกปฏิเสธสิทธิในฐานะผู้บริสุทธิ์อย่างที่เคยเป็นมาอยู่ดี”


การแก้ในเรื่องปลีกย่อยเหล่านี้จึงไม่ต่างอะไรจากไม้ประดับที่คอยหลอกตาประชาชน บดบังไม่ให้เห็นกาฝากที่เป็นใจกลางของปัญหา คอยสูบกินการเมืองไทยต่อไปไม่รู้จบสิ้น เชื่อว่าทุกคนในสภาแห่งนี้ ต่างรู้ดีว่าที่ทำกันอยู่ในวันนี้ ที่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหลายฉบับหลายมาตรา มันไม่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงอะไร เป็นแค่เพียงการปรับแต่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ให้กลายพันธุ์ ให้ดูดี ดูน่าคบหา ถามจริงๆว่าจะเล่นปาหี่กันแบบนี้อีกนานไหม





ทางออกของสังคมไทยมีแค่การแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับเท่านั้น !!!

“ผมและพรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้ทุกคนกลับมาสู่แนวทางการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ”


ในวันนี้ที่ร่าง พ.ร.บ. ประชามติ ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาและเตรียมประกาศใช้แล้วนั้น พรรคก้าวไกลเห็นว่าหนทางหนึ่งในการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่รวดเร็วและตรงไปตรงมาที่สุด คือการจัดทำประชามติเพื่อถามประชาชนกันไปเลยว่าต้องการยกเลิกรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 และจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดย ส.ส.ร. ที่ได้รับเลือกจากประชาชนหรือไม่

หากประชาชนเห็นชอบก็จะได้ไม่เหลือข้ออ้างอะไรให้ต้องมาหาเรื่องขัดขวางกันอีก รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะจัดทำต้องไม่ใช่การพาประเทศไทยกลับไปที่เดิม แต่ทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า อยากให้รับรองสิทธิเสรีภาพไว้อย่างไร ตลอดจนระบบเลือกตั้งจะเอากันอย่างไร ให้ไปว่ากันในเวที สสร.

“เลิกเสียทีกับการพยายามจำกัดเนื้อหาไม่ให้จัดทำในหมวด 1 และหมวด 2 อันเป็นการไม่เคารพต่อเจตจำนงของประชาชนผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ ประชาชนจะเขียนในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ ก็ให้พวกเขาได้รณรงค์และหาข้อสรุปด้วยตัวเอง สำหรับญัตติแก้รัฐธรรมนูญในครั้งนี้”


พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาร่วมกันเห็นชอบกับการยกเลิกมาตรา 272 ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญที่สุดเฉพาะหน้าในการทลายการสืบทอดอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์

และหากปรากฎว่าในท้ายที่สุดญัตติยกเลิกมาตรา 272 เพื่อยกเลิกอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรีถูกคว่ำลงอีกครั้ง ก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่า ละครฉากนี้ที่มีนักแสดงค่าตัวแพงทั้งหลายในห้องนี้ เป็นแค่เพียงละครปาหี่ต่อพี่น้องประชาชนเพื่อกินรวบอำนาจของประชาชนทั้งกระดานเท่านั้นเอง”

“พอได้แล้วหรือไม่กับการยอมให้ทำแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เลิกเล่นตามเกมของผู้ที่ไม่เคยศรัทธาในประชาธิปไตย แล้วหันมาเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญในแบบที่ประชาชนได้เป็นผู้กำหนด และได้รับประโยชน์สูงสุดจริงๆ หยุดทำตัวเป็นหางเครื่องค่าตัวหลักแสนให้กับละครสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และฝ่ายเผด็จการ คสช. เสียที”

Login

สินค้าลอตใหม่จะทยอยเข้าตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนเป็นต้นไป สามารถสอบถามก่อนได้ที่โทร 02 8215874 (10.00-18.00 น. จ-ศ เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า