ตั้งแต่การระบาดระลอกใหม่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดในไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยังไม่มีทีท่าว่าจะลดลง นี่เป็นเพียงตัวเลขของประชาชนที่ได้รับการตรวจเท่านั้น ยังมีอีกจำนวนมากไม่สามารถเข้าตรวจได้จากปัญหาข้อขัดข้องต่างๆ
ตัวเลขการติดเชื้อสูงติดต่อกันเป็นเดือนๆ เช่นนี้ ทำให้ระบบสาธารณสุขก็ตึงมือเช่นกัน ทั้งเตียงที่จะดูแลผู้ป่วย ทั้งโรงพยาบาลสนาม ทั้งสถานที่กักกันเพื่อสังเกตอาการ ฯลฯ จนรัฐบาลต้องยอมให้มีการทำ Home Isolation อย่างเป็นทางการ (เพราะเตียงในโรงพยาบาลไม่พอ! โดยเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล)
โดยเฉพาะช่วง 3 วันที่ผ่านมา ตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงต่อเนื่องติดต่อกันจนทำสถิติ “นิวไฮ” (New High) คือ 53, 57, และ 61 ราย รวมทั้งสิ้นเสียชีวิตทั้งหมดแล้ว 2,047 ราย !!!
หมอแล็บแพนด้า เปิดเผยว่ามีประชาชนติดต่อขอความช่วยเหลือให้หาเตียงให้คุณลุงเนื่องจากติดเชื้อโควิดและล้มป่วย แต่ไม่ทันการ เพราะระหว่างการประสานงานหาเตียงว่างนั้น ก็ได้รับข้อความว่า “หมอแล็บคะ ขอบคุณที่อ่านข้อความหนูค่ะ ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว คุณลุงสิ้นใจแล้วค่ะ…”
สอดคล้องกับทางกลุ่ม เส้นด้าย กลุ่มอาสาสมัครช่วยเหลือติดต่อประสานงาน ส่งต่อ และดูแลผู้ติดเชื้อโควิด เปิดเผยว่าทางกลุ่มได้เจอปัญหาว่าทางโรงพยาบาลก็ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้ทั้งหมดเนื่องจากมีศักยภาพจำกัด จนทำให้พวกเขาได้รับคำตอบลักษณะเช่นนี้อยู่บ่อยๆ “อาการของคนไข้อยู่ในขั้นหนัก ทางเราขอไม่รับนะคะ”
ท่ามกลางความวุ่นวายปั่นป่วนและทรัพยากรสาธารณสุขถูกใช้อย่างเต็มมือ ก็ปรากฏข่าวผู้ติดเชื้อโควิดสิ้นใจตายระหว่างรอเตียงอยู่จำนวนมาก
ทางด้าน สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงปัญหาของการรองรับผู้ป่วยที่ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพ และออกมายอมรับอยางเป็นทางการว่า “สถานการณ์เตียงจะยังคงวิกฤติหนักเช่นนี้ต่อไปอีก 7-14 วันและอาจพบประชาชนเสียชีวิตจากการรอเตียงได้”
หากจะสรุปสถานการณ์ภาพรวมง่ายๆ ก็คือ “ตอนนี้เตียงไม่พอแล้ว ดังนั้นเราจำเป็นต้องเลือกว่าใครจะอยู่ใครจะไป และตอนนี้ยังไม่เห็นแนวโน้มจะดีขึ้นเลย โปรดทำใจ”
ในขณะเดียวกัน สถานการณ์การฉีดวัคซีนก็กลับไม่ได้ดี เพราะตัวเลขเฉลี่ย 7 วันย้อนหลังมีการฉีดเพียง 2.1 แสนโดสต่อวันเท่านั้น ถือว่ายังต่ำกว่าเป้าหมาย เนื่องจากวัคซีนมาช้า และซ้ำร้ายกว่าเดิมคือ ตัวที่มีอยู่ก็อาจจะไม่ได้ช่วยป้องกันการติดเชื้อได้อย่างดีพอ โดยเฉพาะเชื้อสายพันธุ์ใหม่ๆ
ทั้งหมดทั้งปวงนี้ รัฐบาล โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีทีท่าว่าจะรู้ร้อนรู้หนาวใดๆ เพราะหนีการตอบคำถามในสภาผู้แทนราษฎรเพื่อไปเปิด Phuket Sandbox แต่ก็ไม่สายโดนสื่อมวลชนจี้ถามจนต้องเดินหนีไม่ตอบคำถาม
“ต้องใช้น้ำตาอีกกี่หยด ใช้ชีวิตคนไทยอีกกี่ชีวิตกว่ารัฐบาลและนายกรัฐมนตรีจะตื่นและได้ยินเสียงร้องไห้ของพี่น้องประชาชนคนไทยเสียที”
ขอเชิญทุกท่านย้อนฟังการอภิปรายของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล สรุปประเด็นปัญหาและทางออกของวิกฤติครั้งนี้ ในวันที่รัฐบาลหนีสภา https://youtu.be/d6MkSxRKiLQ