ประชุมอัปยศ ไม่ยอมให้ฉีดไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 3 แก่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า เพียงเพราะ… “แสดงว่าเรายอมรับว่าวัคซีนซิโนแวคไม่มีผลในการป้องกัน แล้วจะแก้ตัวยากมากขึ้น”
เปิดเอกสารบันทึกการประชุมว่าด้วยเรื่องแผนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์(Pfizer) โดยเฉพาะที่ไทยจะได้รับบริจาคจากสหรัฐอเมริกามา 1.5 ล้านโดส ในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยเป็นการประชุมเฉพาะกิจระหว่างคณะกรรมการด้านวิชาการ ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ, คณะอนุกรรมการเสริมภูมิคุ้มกันโรค และคณะทำงานวิชาการด้านบริหารจัดการและศึกษาให้บริการวัคซีน เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2564
ในบันทึกการประชุมพบว่ามีหลากหลายความเห็นว่าจะฉีดให้ใครก่อน เช่น 1.บุคคลอายุ 12-18 ปี 2.กลุ่มผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และมีโรคเรื้อรัง ที่ยังไม่ได้วัคซีน และ 3.บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ที่หากได้รับฉีดวัคซีนไฟเซอร์ จะกลายเป็นเข็มที่ 3 ต่อจาก Sinovac 2 เข็มแรก
โดยมีการแลกเปลี่ยนความเห็นกันหลากหลายถึงเหตุผลในการสนับสนุนให้ฉีดกลุ่มต่างๆ ว่ามีความจำเป็นมากน้อยต่างกันแค่ไหนอย่างไร มีความพร้อมทางด้านการอำนวยความสะดวกแค่ไหน ฯลฯ
แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นความเห็นที่สะดุดตาประชาชนมาก ก็คือความเห็นที่ 10 ที่ไม่ยอมให้ฉีดไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 3 แก่บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า เพียงเพราะ…
“แสดงว่าเรายอมรับว่าวัคซีนซิโนแวคไม่มีผลในการป้องกัน แล้วจะแก้ตัวยากมากขึ้น”