นับตั้งแต่ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส. และโฆษกพรรคก้าวไกล เปิดประเด็นเอกสารลับเสนอออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรมเหมาเข่งคนบริหารวัคซีนผิดพลาด โดยอ้างบุคลากรการแพทบังหน้า ก็เกิดกระแสสังคมต่อต้านการกระทำที่ฉ้อฉลไร้ยางอายของรัฐบาลอย่างกว้างขวาง จนกระทั่งรัฐบาลทานกระแสไม่ไหว แผน พ.ร.ก.เหมาเข่ง เป็นอันต้องล่มไป
แต่แทนที่จะล้มเลิกความพยายามนิรโทษกรรมหาทางเอาตัวเองพ้นผิดที่ทำประชาชนเจ็บป่วยล้มตายกันหลักหมื่นหลักแสนทั่วประเทศ สิ่งที่รัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชาทำ ก็คือการพลิกแพลงไปใช้วิธีใหม่ โดยมี มติ ครม. เมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมา เห็นชอบที่จะแก้ไข พ.ร.บ.โรคติดต่อ แทนการออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรมเหมาเข่ง แบบโจ่งแจ้ง แต่เนื้อหากฎหมายยังคงเดิม คือเพิ่มเติมการคุ้มครองให้ครอบคลุมบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการโรคระบาด หรือเรียกง่ายๆว่า จากเดิมที่พ.ร.บ. นี้คุ้มครองเพียงบุคลากรการแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน ก็ให้คุ้มครองมาถึงระบับผู้บริหารและคนออกนโยบายด้วย
สอดไส้กันแบบนี้ แทนที่จะแนบเนียน กลับกลายเป็นยิ่งเผยจุดประสงค์ที่แท้จริงว่าการแก้ไขกฎหมาย ไม่ได้ต้องการคุ้มครองบุคลากรด่านหน้าแบบที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล อ้างในตอนแรก เพราะตัวพ.ร.บ. โรคติดต่อ รวมถึงกฎหมายอื่นที่มีอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม, พ.ร.บ.การแพทย์ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ คุ้มครองแพทย์พยาบาลด้านหน้าอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ครอบคลุมไปถึงฝ่ายนโยบายและศบค. ซึ่งมีนายกฯชื่อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งหัวโต๊ะ!
วิโรจน์ยืนยันว่าการกระทำเช่นนี้เป็นเพียงการเปลี่ยนยุทธวิธีนิรโทษกรรมเอาตัวเองให้พ้นผิดของรัฐบาล เพราะไม่สามารถรับมือพลังต่อต้านของประชาชนได้ แต่โดยยุทธศาสตร์ยังเป็นการหมกมุ่นหาทางเอาตัวรอดของรัฐบาลที่บริหารผิดพลาดจนทำคนเจ็บป่วยล้มตายทั่วประเทศ
พรรคก้าวไกลยืนยันว่าจะต่อต้านการสอดไส้นิรโทษกรรมตัวเองของรัฐบาลอย่างถึงที่สุด เพราะหากปล่อยให้รัฐบาลสอดไส้เนื้อหาการนิรโทษกรรมเหมาเข่งล่วงหน้า เข้าไปที่ พ.ร.บ.โรคติดต่อ ได้สำเร็จ คนที่เสียประโยชน์สูงสุดคือพี่น้องประชาชน
เพราะว่าเมื่อกฎหมายนี้บังคับใช้…
…ประชาชนที่เสียชีวิต ตลอดจนเด็กกำพร้า ที่ต้องมาสูญเสียชีวิตพ่อแม่จากการบริหาร การควบคุมการระบาดที่ผิดพลาด ของรัฐบาล
…ประชาชนที่ถูกเลื่อนฉีดวัคซีนจนต้องมาติดโควิด และเสียชีวิต
…ประชาชนที่ประสบกับผลข้างเคียงอย่างรุนแรงจากการฉีดวัคซีนแบบสลับชนิดระหว่าง Sinovac และ AstraZeneca ทั้ง ๆที่ไม่ได้มีงานวิจัย ที่ตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการทางการแพทย์ในระดับนานาชาติยืนยันมาก่อน
…ประชาชนที่ต้องปิดกิจการ ต้องสิ้นเนื้อประดาตัว ต้องแบกหนี้สินมหาศาล จากมตรการการปิดเมืองและการเยียวยาที่ไม่สมเหตุสมผล ไม่ทั่วถึง
ทั้งหมดนี้ อาจฟ้องร้องการชดเชยเยียวยาใดๆ จากรัฐบาลไม่ได้เลย