เพื่อต้อนรับสู่การเป็น ‘ศิลปินแห่งราษฎร’ ‘ณัฐวุฒิ’ กร้าว ถ้าตัด ‘สุชาติ สวัสดิศรี’ จากศิลปินแห่งชาติ ก็ให้ตัดงบกรมส่งเสริมวัฒนธรรมออกด้วย
ย้อนชมการอภิปรายที่นี่ https://youtu.be/rYqSscup9WE
วันที่ 20 ส.ค. 64 รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 65 วาระที่ 2 วันที่สาม งบประมาณกระทรวงวัฒนธรรม ณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ได้แปรญัตติเพื่อขอปรับลดวงเงินลงร้อยละ 5 คิดเป็นประมาณ 214 ล้านบาท จากงบประมาณ 4,200 ล้านบาทเศษ ด้วยเหตุผล 3 ประการ ได้แก่
ประการแรก ไม่มั่นใจในความเป็นคนไทยหรือเป็นคนดีในนิยามของกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งพบว่า คำว่า คนดี คนไทย เต็มไปหมดในโครงการที่เกี่ยวกับความเป็นไทย และมีมากมายหลายโครงการ โดยแต่ละโครงการล้วนใช้งบประมาณเป็นหลักล้านบาท ประเด็นคือความเป็นไทยต้องเสริมหรือต้องสร้างมากขนาดนั้นเลยหรือ ขณะที่มีอยู่เพียงโครงการเดียวในส่วนนี้ที่ตนอยากสนับสนุน คือการทวงคืนโบราณวัตถุที่บอกว่ากระจายไปอยู่ทั่วโลกเต็มไปหมด แต่กลับตั้งงบประมาณติดตามโบราณวัตถุมาแค่ 100,000 บาท จึงอยากจะตัดลดโครงการที่เกี่ยวกับความเป็นไทยเพราะไม่มั่นใจว่าหมายถึงอะไรกันแน่
ประการที่สอง งบประมาณของ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ซึ่งมีหน้าที่ยกย่องศิลปินแห่งชาติ ขอรับงบประมาณมาทั้งสิ้น 2.9 ล้านบาท แต่วันนี้มีข่าวลือหนาหูว่าคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ซึ่งเข้าใจว่าได้มอบหมายมาจากรองนายกรัฐมตรีท่านหนึ่งที่เป็นประธาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมที่เป็นกรรมการ ประกาศว่าจะถอดถอน สุชาติ สวัสดิ์ศรี จากศิลปินแห่งชาติ ซึ่งจะเป็นหนึ่งเดียวใน 232 คนที่ถูกถอดถอน
“แต่สิ่งที่ สุชาติ สวัสดิ์ศรี บอกต่อประชาชนคือการเรียกร้องสิทธิ และบอกว่าศิลปะต้องรับใช้ประชาชน ศิลปินในฐานะผู้สร้างแรงบันดาลใจให้ประชาชนต้องส่งเสียงแทนประชาชนยามยากลำบาก แต่กระทรวงวัฒนธรรมกำลังจะถอดถอนเขาออก ผมจึงต้องบอกว่าถ้าเช่นนั้นก็ต้องตัดลดงบในส่วนนี้ที่เกี่ยวกับการคัดเลือกและส่งเสริมศิลปินแห่ชาติออกไปเพื่อตอนรับสุชาติสู่ศิลปินแห่งราษฎรด้วย”
ประการที่สาม พบว่ามีงบประมาณที่เกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ รวมกันเกือบ 100 ล้าน หรือไม่น้อยกว่าร้อยละ 2.5 ซึ่งก็มีโครงการอย่าง Big Data ที่ได้ยินและขอกันทุกประทรวงหรือการเอาไปทำเว็บไซต์ทุกจังหวัด ปัญหาก็คือ ในส่วนกรมศิลปากรซึ่งถือฐานข้อมูลด้านศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศกลับไปกำหนดการเข้าถึงข้อมูลในลักษณะสงวนลิขสิทธิ แต่สำหรับตนคิดว่าเรื่องนี้ควรต้องเป็นข้อมูลสาธารณะเพื่อสำหรับที่คนสนใจศิลปะได้มีสิทธิเรียนรู้ ไม่ควรไปตั้งข้อจำกัดการเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้
“ว่ากันว่าอำนาจที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้ ที่สำคัญที่สุดไม่ใช่อำนาจทหารอีกแล้ว แต่คือ Soft Power หรืออำนาจด้านศิลปะวัฒนธรรมงที่มีพลังในการทำสิ่งเหล่านี้ ซึ่งวันนี้จะขอพูดแทน ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ อดีต ส.ส. ในสัดส่วนศิลปวัฒนธรรมที่ถูกตัดสิทธิไป เพื่อขอตัดงบประมาณในส่วนนี้ลงอีก ร้อยละ 5”
สำหรับ สุชาติ สวัสดิ์ศรี คือนักเขียนเจ้าของนามปากกา ‘สิงห์สนามหลวง’ บรรณาธิการนิตยสาร และบรรณาธิการสำนักพิมพ์ รวมถึงเป็นผู้ก่อตั้ง ‘รางวัลช่อการะเกด’ ซึ่งเป็นรางวัลที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางด้านวรรณกรรมจากนักคิดและนักเขียนตลอดมา ด้วยผลงานอันเป็นที่ประจักษ์จึงได้รับยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ในปี พ.ศ. 2554