สมาคมธุรกิจเสริมความงาม ‘กลุ่มแฮร์แชร์” ร้องก้าวไกล จี้รัฐบาลผ่อนปรนมาตรการ ยกเลิกคำสั่งปิดกิจการ ชี้ต้องเร่งเยียวยา จัดหาวัคซีนให้อย่างทั่วถึง หาแนวทางแก้ไขร่วมกันท่ามกลางวิกฤตโควิด
เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2564 ที่อาคารรัฐสภา พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร รับเรื่องร้องเรียนจาก สมเพชร ศรีชัยโย นายกสมาคมชมรมสถาบันกลุ่มคนในอาชีพความงาม และรักเดี่ยว ณ ลำพูน ประธานกลุ่มแฮร์แชร์ เรียกร้องให้รัฐบาลและ ศบค. ผ่อนปรนมาตรการยกเลิกคำสั่งปิดกิจการธุรกิจเสริมความงาม พร้อมเร่งหามาตรการเยียวยารวมถึงจัดหาวัคซีนอย่างทั่วถึง เเละเเนวทางร่วมกันท่ามกลางวิกฤตโควิด-19
พิจารณ์กล่าวว่าในวันนี้กลุ่มผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจเสริมความงาม มายื่นข้อเรียกร้องต่อสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้รัฐบาลผ่อนปรนมาตรการ รวมไปถึงหาเเนวทางเยียวยาธุรกิจเเละผู้ประกอบการ พร้อมหาวัคซีนให้ผู้ประการอย่างทั่วถึง ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้น โดยตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมารัฐบาลละเลย เเละทำให้ธุรกิจด้านเสริมความงามได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐบาลในล็อกดาวน์ตั้งเเต่ระลอกเเรก จนถึงปัจจุบันโดยที่ไม่ได้รับการเยียวยาอย่างตรงจุด เเละปัญหาเหล่านั้นยังไม่ได้รับการแก้ไข
ด้านรักเดี่ยว ณ ลำพูน ตัวเเทนกลุ่มแฮร์แชร์ กล่าวในฐานะตัวแทนผู้ประกอบการร้านตัดผม ว่า “วันนี้ประชาชนคนไทยที่เป็นผู้ประกอบการร้านตัดผมได้รับความเดือดร้อนและได้รับผลกระทบอย่างสูง เนื่องจากเราถูกล็อกดาวน์ตั้งเเต่ระลอกเเรกจนถึงปัจจุบัน สิ่งที่สำคัญที่สุด ขณะนี้ผู้ที่ประกอบอาชีพช่างตัดผม ร้านเสริมสวยพวกเราไม่มีรายได้เลย ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากเนื่องจากเพราะแม้จะหยุดทำงานแต่หนี้สินไม่เคยหยุด ที่ผ่านมารัฐมีแต่คำสั่งห้ามแต่ไม่เคยหาทางออกให้แก่พี่น้องประชาชน พวกเราและพี่น้องประชาชนเข้าใจดีว่าสถานการณ์ประเทศไทยขณะนี้มีความน่าเป็นกังวลเพียงไร แต่การออกมาตรการควบคุมโรคต้องมาพร้อมกับการเยียวยา ไม่ใช่การบีบจมูกแล้วลอยแพประชาชนเช่นนี้”
ตัวแทนกลุ่มแฮร์แชร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “วันนี้ผมเป็นตัวแทนของประชาชนที่ประกอบอาชีพอย่างถูกต้องในประเทศนี้ขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลให้มองเห็นถึงปัญหา ที่เกิดขึ้นเเละเร่งแก้จัดการปัญหาที่ต้นทางนั่นคือการจัดสรรวัคซีน วันนี้ควรกระจายอย่างทั่วถึงได้แล้ว ในภาคธุรกิจก็จะได้ดำเนินการต่อได้”
ขณะที่ศิริกัญญากล่าวว่า ตนในฐานะรองหัวหน้าพรรคก้าวไกลเเละในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้เเทนราษฎร ตนจะนำเรื่องร้องเรียนของประชาชนนำไปพิจารณาในคณะกรรมาธิการฯ โดยตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาทางพรรคก้าวไกล เราได้รับเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนอย่างมากในเรื่องของความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์โดยที่ไม่มีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเเต่อย่างใด โดยในวันนี้เราเหมือนจะได้ข่าวดีจากทางผู้ประกอบการร้านอาหารที่รัฐบาลเเละ ศบค. ผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ลง เเต่ตนอยากให้รัฐบาลมองว่าเรามีผู้ประกอบการหลายกลุ่มที่ไม่รับการผ่อนปรนมาตรการ และยังมีกลุ่มอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน อย่างเช่นผู้ประกอบการร้านตัดผมมาเรียกร้องในวันนี้ หากรัฐมีมาตรการผ่อนคลายผู้ประกอบการร้านอาหารที่ต้องให้มีตรวจ ATK ก่อนเข้าร้าน และมีการฉีดวัคซีนให้กับพนักงานก็ควรปฏิบัติกับผู้ประกอบการกลุ่มอื่นๆ เช่นเดียวกัน เพื่อที่จะทำให้เศรษฐกิจคลายตัวเเละสามารถเดินหน้าได้ต่อ โดยทางกรรมาธิการจะรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา พร้อมเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้เเจงเพื่อหาทางออกร่วมกันต่อไป
ทั้งนี้ สมเพชร ศรีชัยโย ในฐานะนายกสมาคมชมรมสถาบันกลุ่มคนในอาชีพความงาม กล่าวว่าตนขอเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณายกเลิกคำสั่งปิดร้าน ที่เป็นสถานประกอบการที่ให้บริการทำผมและความงาม และขอให้รัฐบาลเปิดเวทีการประชุมหารือ หาทางออกไปการปฏิบัติร่วมกัน เพราะการสั่งปิดโดยไม่มีความคืบหน้าในการศึกษาหาทางออกไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องและควรทำ อย่างน้อยรัฐบาลควรพิสูจน์ให้เห็นว่ารัฐบาลมีความพยายามในการหาทางออกให้แก่พี่น้องประชาชน
โดยหลังการรับยื่นหนังสือของผู้ประกอบการสมาคมธุรกิจเสริมความงามเเละกลุ่มแฮร์แชร์ต่อพรรคก้าวไกล พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ใช้บริการร้านตัดผมที่กลุ่มผู้ประกอบการ นำรถเคลื่อนที่มาตั้งบริการอยู่ด้านข้างอาคารรัฐสภา เพื่อเป็นการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ช่วยเหลือผู้ประกอบการท่ามกลางวิกฤตการเเพร่ระบาดโควิด-19 ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาล
