“แด่ความโง่ โอหัง ปล่อยปละละเลยและฟ้องร้องดำเนินคดีกับคนตัวเล็กตัวน้อย ในฐานะตัวแทนประชาชน ดิฉันขอมอบถุงดำให้นายกรัฐมนตรีไปพิจารณาเอาว่าจะใช้กับตัวเองอย่างไร”
26 ส.ค.64 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 15 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วาระปรึกษาหารือก่อนเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุม อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ในยุคยุคสมัยวิกฤตผู้นำมีแต่สิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวัน ทุกอย่างยากลำบากไปหมดแม้แต่ประชาชนจะแยกโจรกับตำรวจก็เป็นเรื่องแยกยาก วิกฤตศรัทธาเกิดต่อเนื่องกันไปเป็นลูกระนาดถึงทุกองค์กร องค์กรตำรวจที่สลายการชุมนุมก็ได้เห็นกัน
แล้วว่าเป็นการสลายการชุมนุมที่เกินกว่าเหตุ ไม่ได้สัดส่วน ส่วน คฝ.ก็ทำตัวเป็นผู้ปะทะกับฝูงชนเสียเอง มีการยิงแก๊ซน้ำตาใช้กระสุนยางโดยไม่จำเป็น ไม่เฉพาะผู้มาชุมนุมเท่านั้น แต่คนที่อยู่บริเวณนั้นได้รับความเดือดร้อนด้วย ผู้อยู่อาศัยบริเวณแฟลตดินแดงได้รับแก๊ซน้ำตาจนเสียสุขภาพไปหมด
“ผู้หญิงอายุ 61 ปี มือเปล่าก็ถูกตั้งข้อหาทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งเป็นข้อหาร้ายแรง เรื่องนี้มีคลิปซึ่งตำรวจจะต้องถูกดดำเนินคดีกลับแน่นอน ล่าสุด ที่สร้างความสะทือนใจให้กับคนไทยมากคือคลิปผู้กำกับใช้ถุงพลาสติกคลุมหัวรีดทรัพย์ผู้ต้องหา มันเกิดขึ้นได้อย่างไร จึงขอทวงถามการปฏิรูปองค์กรตำรวจที่ได้เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ 60 บัดนี้ไปถึงไหนแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ขอถามไปยังนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำกับดูแล สตช.ว่าจะรับผิดชอบอย่างไร ในเมื่อการปฏิรูปตำรวจไม่เกิดขึ้น และยังมีคำสั่ง คสช. ที่รวบอำนาจการบริหารองค์กรตำรวจเข้าสู่ศูนย์กลาง การไม่การกระจายอำนาจ เป็นต้นเหตุนำไปสู่ซื้อขายตำแหน่ง วิ่งเต้น”
“แด่ความโง่ โอหัง ปล่อยปละละเลยและฟ้องร้องดำเนินคดีกับคนตัวเล็กตัวน้อย ในฐานะตัวแทนประชาชน ดิฉันขอมอบถุงดำให้นายกรัฐมนตรีไปพิจารณาเอาว่าจะใช้กับตัวเองอย่างไร” อมรัตน์ สรุปทิ้งท้ายในคำปรึกษาหารือ