‘ก้าวไกล’ ร้อง ป.ป.ช. ไต่สวน ‘ชัยวุฒิ’ – อัยการสูงสุด ปมตั้งอนุญาโตตุลาการคดีไทยคม
รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล เดินทางไปยื่นหนังสือคำร้องต่อประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับ ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, วงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด รวมถึงพนักงานอัยการอื่นที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความผิดปรกติในการแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการในข้อพิพาทเกี่ยวกับดาวเทียมไทยคม
การยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ รังสิมันต์ ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจ ชัยวุฒิ เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2564 ต่อกรณีความไม่ชอบมาพากลในการแต่งตั้งอนุญาโตตุลาการของฝ่ายกระทรวงดิจิทัลฯ เพื่อดำเนินคดีดาวเทียมไทยคม 3 คดี ที่กระทรวงฯ มีข้อพิพาทกับบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) และบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)
ยกตัวอย่าง เช่น การพยายามเปลี่ยนตัวอนุญาโตตุลาการที่ฝ่ายกระทรวงฯ ตั้งไว้แต่เดิมเอง ซึ่งตาม พ.ร.บ.อนุญาโตตุลาการ พ.ศ. 2545 คู่ความจะคัดค้านอนุญาโตตุลาการฝ่ายตัวเองไม่ได้ และเมื่อถูกอนุญาโตตุลาการคนนั้นขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่กล่าวหาก็ไม่สามารถชี้แจงได้ หรือการที่กระทรวงฯ เลือกตั้งอัยการสูงสุด ซึ่งถือเป็นผู้บังคับบัญชาของพนักงานอัยการที่เป็นคณะทำงานต่อสู้คดีให้กับกระทรวงฯ และตั้งพนักงานอัยการที่เคยอยู่ในคณะทำงานต่อสู้คดี ให้เป็นอนุญาโตตุลาการ ซึ่งถือเป็นการตั้งบุคคลที่มีส่วนได้เสียในคดี ขาดความเป็นกลางและเป็นอิสระ
การแต่งตั้งดังกล่าวส่งผลให้แม้ว่าผลการชี้ขาดคดีกระทรวงฯ จะเป็นฝ่ายชนะ แต่ก็อาจถูกคู่ความอีกฝ่ายขอให้เพิกถอนคำชี้ขาดด้วยเหตุว่าอนุญาโตตุลาการไม่เป็นอิสระและไม่เป็นกลาง จนอาจเกิดความเสียหายต่อประเทศเป็นมูลค่านับหมื่นล้านบาท จึงขอให้ ป.ป.ช. ไต่สวน ชัยวุฒิ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ และพวกว่า ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือโดยทุจริตเพื่อแสวงหาประโยชน์ของตนโดยมิชอบ หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่