ก้าวไกลจี้ สน.ดินแดง ตอบ ทำไมดับไฟตอนเกิดเหตุยิงผู้ชุมนุม?
กมธ.พัฒนาการเมือง ยื่นหลักฐานทวงถามความคืบหน้า กรณี 2 เยาวชนถูกยิงหน้า สน.ดินแดง ณัฐชา จี้ถามตำรวจ เหตุใดไฟดับที่ สน.วันเกิดเหตุ ซัดแรง ตำรวจทำอะไรอยู่ กว่า 1 เดือน คดีไม่คืบหน้า ขณะที่แม่เด็กเผย น้องยังไม่ได้สติ พร้อมทวงถามความเป็นธรรมอย่างเร่งด่วน
ช่วงบ่ายโมง วันที่ 23 กันยายน 2564 ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย กันตภณ ดวงอัมพร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.เขตดินแดง พรรคก้าวไกล พร้อมด้วยผู้ปกครองของเยาวชนที่ถูกยิงเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564 บริเวณ สน.ดินแดง ทั้ง 2 คน และทีมทนายความจากภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน นำคลิปและรายงานของ กมธ.พัฒนาการเมืองฯ ที่รวบรวมหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุกว่า 54 ตัว ไปยื่นให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ดินแดง เพื่อทวงถามความคืบหน้าต่อกรณีที่เกิดขึ้น พร้อมยื่นหลักฐานเป็นเอกสารรายงานของคณะกรรมาธิการ 21 หน้า รวมถึงคลิปวีดีโอ ที่ได้จากกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร 54 ตัว จำนวน 13 คลิป
ณัฐชา กล่าวว่า ที่จริงวันนี้ ต้องการพบผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาลดินแดง เพื่อให้ได้รับความคลี่คลายต่อกรณีที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง แต่ตนได้ทราบจาก พ.ต.ท.โสภณ เเย้มชมชื่น รองผกก.สน.ดินแดง ว่า ติดภารกิจ จึงนำหลักฐานจากคณะทำงานสืบหาข้อเท็จจริง ทั้งคลิปวิดีโอ 13 คลิป เอกสาร 21 หน้า ส่งให้กับ พ.ต.ท.โสภณ ในฐานะผู้ดูแลคดีนี้โดยตรง เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงและนำบุคคลที่ทำผิดมาลงโทษ
ณัฐชากล่าวต่อว่า ได้ให้ทางผู้ปกครองของผู้เสียหายทั้ง 2 คน แลกเบอร์โทรศัพท์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อติดตามและทวงถามความคืบหน้าต่อกรณีที่เกิดขึ้น โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเเจ้งว่า สน.ดินแดง มีคดีเข้ามาหลายร้อยคดี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีอยู่ต้องทำงานหนัก และไม่เพียงพอต่อการรับงานปริมาณมากกับคนที่มีจำนวนจำกัด โดยตนได้รับอนุญาตให้เข้าไปตรวจสอบการทำงาน
“ถามว่าวันนี้คืบหน้าอะไรบ้าง ผมแทบพูดได้ว่าทุกคำตอบที่ได้มา ไม่คืบหน้าเลย แต่ในวันนี้เราได้เอาข้อมูลจากคณะทำงานมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในฐานะผู้รวบรวมพยานหลักฐาน อย่างน้อยๆ หากท่านได้ดูข้อมูลของเราแล้ว อาจจะเป็นประโยชน์บ้าง ในการที่จะพิจารณาคดีต่อไป”
ณัฐชา กล่าว
“ส่วนกรณีไฟดับในห้วงเวลาที่มีเสียงปืน และไฟติดในห้วงเวลาหลังจากนั้น ตนได้เกิดความกังวลและสอบถามยังรอง ผกก. ซึ่งตนได้รับคำตอบว่า ไม่ทราบเลยว่ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ซึ่งตนก็ยังสงสัยกับคำตอบ แต่เบื้องต้นตนได้ฝากให้ติดตามเรื่องนี้ด้วย ในสำนวนต้องมีเรื่องนี้ด้วย กรณีไฟดับที่มีเสียงปืนและไฟติดเมื่อสถานการณ์คลี่คลาย เรื่องนี้เป็นเรื่องนี้เราไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ เนื่องจากไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมาธิการ แต่อย่างน้อยเราได้เอาข้อมูลหลักฐานจากคณะทำงานมาส่งมอบให้ ที่เหลือเป็นหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่จะสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป”
ณัฐชา กล่าวเพิ่มเติมว่า จากข้อมูลเอกสาร 21 หน้า คลิปวิดีโอ 13 คลิป ทั้งหมดมันค่อยข้างชัดเจนว่า กลุ่มบุคคลที่กำลังยิง กำลังทำร้าย มีความอุกอาจอย่างมากในการเดินอยู่บนท้องถนนในการใช้อาวุธปืน โดยไม่เกรงกลัวผู้ที่สัญจรไปมา ใช้รถใช้ถนน หรือแม้กระทั้งชาวบ้านบริเวณโดยรอบ เขาสามารถใช้อาวุธยิงเข้าไปน้องที่นั่งอยู่บริเวณนั้นโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ตรงนี้เป็นสัญญาณให้เห็นว่า กลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มนั้นคือใครแล้วสามารถกระทำเหตุการณ์โดยรัศมีใกล้กับสถานีตำรวจได้ขนาดนี้ สน.ดินแดง ควรเร่งสืบหาข้อเท็จจริง เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจและพิสูจน์ความเชื่อมั่นของกระบวนการยุติธรรม และตนขอสื่อสารไปยังประชาชน หากมีเบาะเเสคลิปจากกล้องวีดีโอหน้ารถ ให้ส่งมายังทุกช่องทาง เพราะกล้องหน้ารถ จะเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าหน้าตาของผู้ก่อเหตุคือใคร
ด้าน พ.ต.ท.โสภณ เเย้มชมชื่น รอง ผกก.สน.ดินแดง ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานชุดสอบสวน กล่าวว่า ตนมีหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐานจากชุดสืบสวน จึงไม่สามารถระบุเวลาได้ว่าคดีจะดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อไหร่ ต้องอาศัยความละเอียดอ่อน เพื่อไม่ให้เสียรูปคดี พร้อมจะติดตามดำเนินคดีนี้ต่อไป ขอให้ผู้ปกครองมั่นใจว่าเราจะนำบุคคลที่กระทำมารับโทษให้ได้
นอกจากนี้ รอง ผกก. ระบุว่า มีการขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจากทุก สน. เพื่อให้มาช่วยสืบหาข้อเท็จจริงกว่าร้อยคดี ดังนั้น คดีของน้องทั้ง 2 คน คือ 1 ใน กว่าร้อยคดี ที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวน ยังคงต้องรอคอยต่อไป
ขณะที่ แม่ของเยาวชนอายุ 16 ปี ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า น้องยังไม่รู้สึกตัว ตนขอฝากคดีดังกล่าวให้คืบหน้า และขอสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ขึ้น มีเยาวชน และประชาชนอยู่ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจตนไม่ได้รับข้อมูลและความคืบหน้าใดๆ โดยตนหวังว่าหลักฐานของคณะทำงานที่นำมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ในวันนี้จะเป็นหลักฐานเอาผิดคนกระทำผิดได้ และตนขอความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อกรณีที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน
ด้านตัวแทนทนายความจากภาคีนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า เอกสารและรายงานของคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองฯ ในวันนี้ประกอบด้วย คลิปจากกล้องวงจรปิด 54 ตัว ในวันที่เกิดเหตุ ทั้งหมด 13 คลิป โดยเห็นว่าหลักฐานดังกล่าวเป็นพยานหลักฐานที่เสนอในชั้นกรรมาธิการแล้ว ซึ่งถือว่ามีการกลั่นกรองในเบื้องต้น เพียงพอที่ทางสน.ดินแดง ในฐานะเจ้าของพื้นที่ที่ทำสำนวนดังกล่าว จะสามารถหยิบไปพิจารณาได้ เพื่อสืบหาผู้กระทำความผิดต่อไป เราเชื่อว่าเอกสารทั้งหมด รวมถึงคลิปต่างๆ จะช่วยให้ค้นหาตัวผู้กระทำความผิดได้ เพราะหลักฐานค่อนข้างชัด และสามารถนำไปสู่การสืบหาผู้กระทำความผิด