
‘พิธา’ ยกทีมบุกเชียงใหม่ ฟังปัญหา นศ. ช่วงโควิด – ร่วมกิจกรรม ‘ยืน หยุด ขัง’
‘พิธา’ ยกทีมบุกเชียงใหม่ ควง ‘ศิริกัญญา’ – ‘ปดิพัทธ์’ เปิดตัวผู้สมัคร พร้อมร่วมกิจกรรม ‘ยืน หยุด ขัง’ พร้อมย้ำว่า ก้าวไกลเดินหน้าปักธงประชาธิปไตย ยกระดับพัฒนาเศรษฐกิจ ท่องเที่ยวเชียงใหม่ เพิ่มมูลค่าอัตลักษณ์ท้องถิ่น
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2564 พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต1 พรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อประชุมเเละหารือกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ พร้อมด้วยตัวเเทนผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กลุ่มภาคเหนือตอนบน เพื่อรับทราบข้อคิดเห็น เเละข้อเสนอเเละนโยบายจากทีมจังหวัด โดยมี เพชรรัตน์ ใหม่ชมภู ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1, การณิก จันทดา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8, ภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 2 พรรคก้าวไกล เข้าร่วมประชุม เเละถือเป็นการเปิดตัวผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเชียงใหม่เป็นครั้งเเรก

จากนั้น พิธา พร้อมด้วย ศิริกัญญา และ ปดิพัทธ์ ร่วมรับฟังปัญหาของนักศึกษาริมอ่างแก้ว บริเวณมหาวิทยาลัย เชียงใหม่ เกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดกับนักเรียนนักศึกษาช่วงโควิด-19
พิธา กล่าวว่า ดีใจที่ตนได้กลับมามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อีกครั้ง ตนรู้สึกเสียดายที่อนาคตเเละความฝันของนักศึกษาถูกขโมยไป จากมาตรการของภาครัฐที่ไม่ชัดเจน และจากการที่ตนได้เข้าไปนั่งในคณะกรรมาธิการบริหารงบประมาณ 2565 พบว่ากำไรสะสมของมหาวิทยาลัยจำนวน 35,000 ล้านบาท ซึ่งมากพอกับอนาคตในการที่จะทำให้นักศึกษาได้รับคุณภาพเทียบกับภาษีที่ต้องจ่าย หากตนได้เป็นรัฐบาลจะบริหารจัดการใน 2 ประเด็น คือวัคซีนที่คุณภาพ เเละการตรวจแบบ ATK ที่ได้คุณภาพ เพื่อให้นักศึกษาได้สามารถกลับมาใช้ชีวิต ได้ตามปกติ ได้ใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ได้สนุกสมวัยตามที่ควรจะเป็น ไม่ใช่แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้


“เห็นหรือยังว่า ผู้บริหารที่มีความสามารถและมีวิสัยทัศน์ที่ดีมันเห็นได้ชัดจากการบริหารประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ที่จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะนักศึกษาในฐานะอนาคตของประเทศ เราจะทำอย่างไร เพื่อจะส่งต่ออนาคตที่ดี ที่มีคุณภาพให้กับพวกเขาเหล่านั้น นี่คือสิ่งที่พรรคก้าวไกล ปฏิบัติมาเสมอ เราเข้ามาเป็นผู้แทนของประชาชนเพื่อที่จะส่งต่ออนาคตที่ดีให้ลูกหลานของเรา
“ผมขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคในตอนที่เกิดโควิดขึ้นพอดี เเละในวันที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ผมอภิปรายครั้งเเรกในสภาผู้แทนราษฎร ผมเจอปัญหา ต่อสู้ความฝันของตัวเองทุกวันทุกเช้า นี่เป็นสิ่งที่ผมมายืน ณ จุดนี้ ที่มีความหวังในการเห็นประเทศมันดีขึ้นกว่านี้ เป็นผู้แทนของพวกคุณทุกคน ในการเข้ามาเป็นปากเป็นเสียงแทนพวกคุณ เเทนพวกน้องๆ เพื่อมอบอนาคตที่ดีให้กับพวกคุณทุกคน”


ขณะที่ ศิริกัญญา กล่าวถึงมาตรการของรัฐที่ไม่ชัดเจน ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกภาคส่วน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวรวมไปถึงคุณภาพชีวิตของประชาชน สิ่งสำคัญ ในด้านของการศึกษา ที่มีผลต่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งวัคซีนมีส่วนสำคัญต่อการคลายล็อกและแก้ไขปัญหา หากเรามีการกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง
ด้านตัวเเทนนักศึกษา กล่าวถึงปัญหาที่ต้องการเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยมีมาตรการเพิ่มเติม ในประเด็นเรื่องของรถบริการสาธารณะภายในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ไม่ได้เล็งเห็นถึงการบริการเเละเอื้อต่อผู้พิการเหมือนสมัยก่อน “เราไม่ควรจัดสรรทรัพยากรให้เเก่ผู้พิการอย่างเดียว เเต่เราควรสามารถให้เขาอยู่ร่วมกันได้ในสังคม เเละในการเข้าถึงพื้นที่สาธารณะ สิ่งอำนวยต่างๆที่ไม่ตอบโจทย์ต่อคนพิการ เราต้องการให้มหาวิทยาลัยเล็งเห็นในเรื่องนี้ เพื่อให้สังคมอยู่ร่วมกันได้ รวมถึงได้เรียกร้องเกี่ยวสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน อย่างเห็นเเนวทางที่ชัดเจน เพื่อนำไปสู่จุดมุ่งหมายในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย”

ในช่วงเวลา 18.00 น. พิธา พร้อมด้วย ศิริกัญญา ตันสกุล, ปดิพัทธ์ สันติภาดา, มานพ คีรีภูวดล, นิติพล ผิวเหมาะ ร่วมกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ‘ยืน หยุด ขัง’ เพื่อเป็นการเรียกร้องทวงสิทธิการประกันตัวผู้ต้องหาจากคดีหมิ่นสถาบันฯ ตามมาตรา 112 ที่จัดขึ้นโดยนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นเวลา 10 นาที พร้อมเปล่งเสียงว่า “ปล่อยเพื่อนเรา ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์ จงเจริญ”
พิธา กล่าวว่า การที่ตนมายืนร่วมกิจกรรมแม้ไม่ได้เป็นเวลานานมาก เเต่ตนคิดถึงครอบครัวของพวกเขาที่บุคคลที่เขารักต้องถูกกระทำ ตนคิดว่าการประกันตัวผู้ชุมนุมเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน เเละตามหลักสิทธิสากลที่พึงกระทำ ในประเทศที่มีระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรคก้าวไกลได้เสนอและต่อสู้มาตลอดเพื่อให้ได้รับความยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อคืนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

ตลอดทั้งวันนี้ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เเละทีมงานได้ลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ อาทิ ถนนนิมมานเหมินทร์ ที่เป็นย่านเศรษฐกิจ การค้าแหล่งร่วมตัวของวัยรุ่น นักศึกษา เพื่อรับทราบปัญหาทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมไปถึงหาเเนวทางในการฟื้นฟูพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวเมื่อรัฐบาลทำการเปิดประเทศ อีกทั้งในช่วงค่ำ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมคณะทีมงานจะร่วมรับฟังปัญหาจากผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน ที่ได้รับผลกระทบจากโควิดเเละมาตรการของรัฐบาล
ในวันพรุ่งนี้พรรคก้าวไกลจะยกทีมเดินทางไปยังศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ต.เหมืองจี้ อ.เมือง จ.ลำพูน ที่เป็นพื้นที่ของเทศบาลตำบลเหมืองจี้ ในการดูเเลของคณะก้าวหน้า เพื่อหารือเเละหาเเนวทางในการพัฒนาและดูเเลเด็กเล็กร่วมกัน พร้อมทั้งจะเดินทางไปยัง อ.เมือง จ.ลำปาง ในการหารือถึงนโยบายเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัย