‘ก้าวไกล’ ลงพื้นที่น้ำท่วมอยุธยา จี้รัฐตรวจสอบการเปิด-ปิดประตูกั้นนำ
‘พิจารณ์’ นำทีม ‘ก้าวไกล’ มอบถุงปันน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมอยุธยา จี้ รัฐ เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมเรียกร้องให้มีการตรวจสอบข้อข้องใจของคนในพื้นที่เกี่ยวกับการเปิด-ปิดประตูน้ำว่า ไม่ยอมเปิดประตูกั้นน้ำให้สูงขึ้นเพื่อปกป้องพื้นที่ของนายทุนหรือไม่
พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อม ปนัดดา ฤทธิแพทย์ และ ทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.พระนครศรีอยุธยา ของพรรคก้าวไกล เดินทางไปยัง ต.ทางช้าง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมอบถุงน้ำใจให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม นอกจากนี้ ยังมี ปภาวิน ติณณ์พิพัฒน์โสภน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. เขตบึงกุ่ม และธนเดช เพ็งสุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพฯ เขตลาดพร้าว ร่วมด้วย
พิจารณ์ กล่าวว่า วันนี้เป็นอีกวันที่เป็นการรวมพลังกันของสมาชิกพรรคก้าวไกล จากอยุธยาและกรุงเทพฯ โดยการลงพื้นที่ในวันนี้ เป็นความร่วมมือระหว่างทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อยุธยา คณะทำงานจังหวัดอยุธยา และทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และ ส.ก. จากกรุงเทพฯ เพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของประชาชนทั้ง 2 จังหวัด
“ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ความเสียหายในทรัพย์สิน ความเสียหายทางเศรษฐกิจ เป็นเรื่องที่โหดร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพี่น้องชาวพระนครศรีอยุธยา ที่ต้องรับเคราะห์ รับน้ำท่วม เพื่อปกป้องกรุงเทพมหานครมาโดยตลอด ในอีกไม่ช้า น้ำก็อาจจะถึงกรุงเทพฯ หากไม่มีการวางแผนการระบายน้ำที่ดี”
นอกจากนี้ พิจารณ์กล่าวว่า ตนและพรรคก้าวไกลตั้งใจมาที่อยุธยา เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นจริงๆ รับรู้ถึงความเดือดร้อน ความเสียหายที่เกิดขึ้น มากกว่าแค่เห็นทางภาพข่าว
“ก่อนอื่นผมต้องขอเรียนว่า ผมไม่ต้องการและไม่มีเจตนาที่จะโยงเรื่องน้ำท่วมเป็นประเด็นทางการเมือง เพื่อสร้างแรงเสียดทานหรือโจมตี รัฐบาลคุณประยุทธ์ ผมคิดว่าการทำเช่นนั้น รังแต่จะทำให้รัฐบาลประยุทธ์ทำในสิ่งที่ถนัด คือปฏิบัติการทางการข่าว ตอบโต้ทางการข่าวเท่านั้น มากกว่าที่จะใช้สติปัญญาและเวลาในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมอย่างจริงจัง แต่ผมขอเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาด้วยความรวดเร็ว จริงจัง และจริงใจ”
พิจารณ์ ยังกล่าวต่ออีกว่า วันนี้รัฐบาลต้องเร่งระดมช่วยเหลือเฉพาะหน้า ทั้งอาหาร น้ำดื่ม ยา ข้าวของ เครื่องใช้ในช่วงน้ำท่วมนี้อย่างเต็มที่ หลังน้ำลด ต้องมีการสำรวจความเสียหาย และเร่งเยียวยาประชาชนที่ประสบภัยอย่างได้สัดส่วน และประเทศนี้ควรมีแผนการจัดการน้ำท่วมที่พร้อมกว่านี้ได้แล้ว
ด้าน ปนัดดา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในเขต อ.บางบาล กล่าวว่า จากที่ตนลงพื้นที่ ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่า น้ำในอำเภอบางบาลที่ท่วมซ้ำซ้อน อาจเกิดจากการระบายน้ำที่ไม่เป็นเวลา เพื่อเอื้อให้กับที่ดินของนายทุนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน ซึ่งท่วมน้อย และระบายได้ดีกว่าฝั่งบ้านเรือนของประชาชน ทั้งนี้ ตนจะลงพื้นที่ช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนในพื้นที่ อ.บางบาล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เพราะหากรอหน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยเหลือ ก็เกรงว่าจะสายเกินไป
ประชาชนในพื้นที่ระบุว่า คนที่อยู่ติดแม่น้ำน้อยได้รับความเดือดร้อนอย่างมากจากน้ำท่วม ซึ่งหนักพอๆ กับช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 แต่เมื่อข้ามไปอีกฟากถนนก็พบว่าน้ำไม่ท่วมเลย ทั้งที่ฝั่งที่น้ำไม่ท่วมเป็นบ่อทราย ซึ่งพื้นที่ต่ำกว่าฝั่งบ้านเรือนประชาชนมาก คนในพื้นที่จึงตั้งข้อสังเกตว่า ใต้ถนนก็จะมีท่อเปิดปิดระบายน้ำ ส่วนประตูระบายน้ำก็เปิดได้สูงถึง 2 เมตร แต่ปัจจุบันเปิดเพียง 50 เซนติเมตรเท่านั้น ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนสูงมาก แต่บ่อทรายของกลุ่มนายทุนไม่ท่วมเลยแม้แต่น้อย
พิจารณ์ กล่าวว่า จากการพูดคุยกับคนในพื้นที่ พบว่า จนถึงขณะนี้ ประชาชนในพื้นที่ก็ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากภาครัฐที่เกี่ยวข้องว่าทำไมจึงไม่เปิดประตูระบายน้ำให้สูงกว่านี้ เนื่องจากหากเปิดประตูระบายน้ำให้สูงกว่านี้ สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จะไม่หนักเท่าปี 2554 อย่างแน่นอน เพราะมวลน้ำปีนี้ไม่เยอะเท่าปี 2554 ตนจึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงข้อข้องใจของประชาชน พร้อมแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ทราบถึงแผนการรับมือน้ำท่วมอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ประชาชนรู้สึกว่า หน่วยงานรัฐทอดทิ้งพวกเขา เพื่อปกป้องพื้นที่ของนายทุน
หลังจากที่คาราวานก้าวไกล ลงพื้นที่มอบถุงปันน้ำใจในช่วงเช้าที่ ต.ทางช้าง อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ในช่วงบ่ายจะเดินทางต่อไปยังบริเวณ ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล ซึ่งเป็นจุดที่ต้องใช้เรือเป็นพาหนะเข้าไปมอบถุงปันน้ำใจ เนื่องจากถนนถูกตัดขาด บางจุดมีน้ำท่วมสูงกว่า 4 เมตร